เพลงชาติไทย แต่งโดยเผด็จการจริงหรือ?

บทความโดย : กุญชร เชี่ยววารี

จากกรณีที่น้องหยก น.ส. ธนลภย์ ผลัญชัย เยาวชนนักเคลื่อนไหวที่ออกมาเรียกร้องสิทธิในการแต่งกายเข้ารับการศึกษาด้วยชุดไปรเวทนั้น มีการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนโดยคุณบุ้ง เนติพร เสน่ห์สังคม สมาชิกกลุ่มทะลุวัง ผู้อ้างตัวเป็นผู้ปกครองของน้องหยก โดยในตอนหนึ่งคุณบุ้งกล่าวว่า สาเหตุที่น้องหยกไม่ต้องการยืนเคารพธงชาตินั้นเพราะว่า “เพลงชาติไทยเป็นเพลงที่แต่งโดยเผด็จการ” อีกทั้งการให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้เป็นการให้สัมภาษณ์ โดยมีน้องหยกร่วมรับฟังด้วย

คำกล่าวนี้ ดูสืบเนื่องมาจากการที่เพลงชาติไทยฉบับปัจจุบันนั้น ถูกประกาศใช้ในรัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของไทย อีกทั้งยังเคยขึ้นสู่อำนาจด้วยการก่อรัฐประหาร จนถูกมองว่าเป็นเผด็จการทหาร

แต่หากพิจารณาข้อเท็จจริงในหน้าประวัติศาสตร์แล้ว แนวคิดในการแต่งเพลงชาติไทยนั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2474 แล้ว โดยพระเจนดุริยางค์ (ปีติ วาทยะกร) ผู้แต่งทำนองเพลงชาติไทยได้บันทึกเอาไว้ว่า หลวงนิเทศกลกิจ (กลาง โรจนเสนา) ได้มาขอให้ท่านแต่งเพลงชาติขึ้นใหม่ โดยใช้ท่วงทำนองของเพลงลามาร์แซแยซ (La Marseillaise, เพลงชาติฝรั่งเศส)

อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้น พระเจนดุริยางค์ถือว่าประเทศสยาม (ชื่อในเวลานั้น) มีเพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นเพลงชาติอยู่แล้ว อีกทั้งการร้องขอดังกล่าวก็มิใช่คำสั่งราชการ จึงบ่ายเบี่ยง ถึงแม้จะถูกตื้ออยู่หลายครั้ง แต่ท่านก็ปฏิเสธมาโดยตลอด

กระทั่งภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475 ได้ 5 วัน หลวงนิเทศกลกิจ มาหาพระเจนดุริยางค์ แต่ในครั้งนี้มาในฐานะ “สมาชิกคณะราษฎร” และอ้างว่าเป็นความต้องการของคณะผู้ก่อการ พระเจนดุริยางค์จึงจำใจต้องแต่งให้ และแต่งสำเร็จในวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2475 โดยใช้ท่วงทำนองของเพลงมาซูแร็ก ดอมบรอฟสกีแยกอ (Mazurek Dąbrowskiego, เพลงชาติของสาธารณรัฐโปแลนด์)

พระเจนดุริยางค์ขอร้องหลวงนิเทศกลกิจว่า ขอให้ปกปิดชื่อของผู้แต่งเพลงเอาไว้ แต่ชื่อของท่านกลับถูกเปิดเผยในภายหลัง ทำให้พระเจนดุริยางค์ถูกเจ้าพระยาวรพงศ์พิพัฒน์ เสนาบดีกระทรวงวัง ตำหนิอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าในภายหลังพระยามโนปกรณ์นิติธาดา นายกรัฐมนตรีคนแรกของไทย จะชี้แจงว่าท่านและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้คิดการแต่งเพลงนี้ และเพลงนี้ก็ยังไม่ได้รับรองว่าเป็นเพลงชาติเนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการทดลองก็ตาม แต่พระเจนดุริยางค์ก็ได้รับคำสั่งปลดจากราชการ

สำหรับในส่วนของเนื้อร้องนั้น ฉบับแรกสุด แต่งโดยขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธ์) ซึ่งได้รับการทาบทามจากคณะผู้ก่อการ เสร็จช่วงเดือนสิงหาคม 2475 แต่ฉบับนี้ ไม่ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการ จนกระทั่งมีการจัดประกวดเพลงชาติสยามขึ้นใหม่ใน พ.ศ. 2477 โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือแบบไทยเดิม และแบบสากล

คณะกรรมการพิจารณาเพลงชาติ ตัดสินใจไม่เสนอเพลงชาติแบบไทยเดิม เสนอเพียงแบบสากลต่อคณะรัฐมนตรี เนื่องด้วยเห็นว่า หากมีเพลงชาติ 2 แบบจะทำให้ไม่มีความ ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งคณะกรรมการเลือกทำนองของพระเจนดุริยางค์ แต่เนื้อร้อง เลือกฉบับปรับปรุงของขุนวิจิตรมาตรา และได้เพิ่มบทร้องของนายฉันท์ ขำวิไล ซึ่งเป็นบทร้องที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศเข้าอีกชุดหนึ่ง คณะรัฐมนตรีได้ประกาศรับรองให้เป็นบทร้องเพลงชาติฉบับราชการเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2477

อย่างไรก็ดี เพลงชาติฉบับนี้มีความยาวเกินไป จึงได้มีการแก้ไขให้สั้นลง และต่อมาใน พ.ศ. 2482 มีการเปลี่ยนชื่อประเทศจาก “สยาม” เป็น “ไทย” จึงมีการประกวดเนื้อร้องใหม่อีกครั้ง และปรากฏว่าเนื้อร้องของพันเอกหลวงสารานุประพันธ์ ซึ่งส่งประกวดในนามกองทัพบกได้รับรางวัลชนะเลิศ

ในช่วงเวลาดังกล่าว ยังเป็นช่วงที่ “คณะราษฎร” ยังคงมีอำนาจปกครองประเทศอยู่ และ พ.ศ. 2482 ถึงแม้ว่าพันเอกหลวงพิบูลสงคราม (ยศของจอมพล ป ในเวลานั้น) จะเป็นนายกรัฐมนตรี และผู้นำของคณะรัฐมนตรีชุดที่ 9 ของไทย โดยมีคณะราษฎร เป็นพรรคร่วมรัฐบาล อีกทั้ง นายปรีดี พนมยงค์ในเวลานั้น ก็เป็นหนึ่งในคณะรัฐบาลชุดนี้ โดยมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ดังนั้น หากจะกล่าวว่าเพลงชาติไทยถูกแต่งโดยเผด็จการ ก็คงต้องถามคุณบุ้ง เนติพร ทะลุวังแล้วว่า เธอเห็นคณะราษฎรเป็นคณะเผด็จการ ยึดอำนาจด้วยการใช้กำลังทหารด้วยหรือไม่ ? หรือเป็นเพียงแค่ความไม่รู้ของตัวคุณบุ้ง เนติพร และกลุ่มทะลุวังเท่านั้น ?