ความห่วงใยที่พระราชทานจากในหลวง ผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ มอบชีวิตใหม่หลังพายุร้าย แก่ผู้บาดเจ็บจากวาตภัยจังหวัดพิจิตร
หลายคนคงจำได้ถึงเหตุการณ์ความสูญเสียจากพายุถล่ม ที่เกิดขึ้นกับชาวพิจิตรในช่วงค่ำวันที่ 22 พ.ค. 2566 คืนนั้นเกิดฝนตกหนักหลายพื้นที่ในจังหวัดตามคำพยากรณ์อากาศของกรมอุตุฯ
โดยเฉพาะ อำเภอสามง่าม ได้เกิดลมพัดแรงและพายุหมุนทำให้โดมอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ภายในโรงเรียนวัดเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ที่ใช้ทำกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน ซึ่งจะมีเด็กๆ ในหมู่บ้านมารวมตัวเล่นกีฬากันช่วงเย็นแทบทุกวัน พังถล่มลงมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ในขณะที่บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ตำบลเนินปอ อำเภอสามง่าม ก็ถูกพายุพัดพังเสียหายจำนวนหลายหลังคาเรือน
นี่คือเหตุการณ์ความสูญเสียจากวาตภัยที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับพี่น้องชาวพิจิตร
ผ่านมาร่วมสองเดือน หลายคนอาจจะไม่ได้ติดตามอัปเดตเหตุการณ์พายุถล่มในครั้งนั้น หลายคนอาจจะลืมกันไป เนื่องด้วยสถานการณ์อื่นๆ ในบ้านเมือง ในหน้าฟีด ในรัฐสภา ต่างเข้ามาฉกชิงพื้นที่บนหน้าสื่อประจำวันไปจนหมด
หลายคนอาจจะไม่ทันสังเกตเห็นข่าวเล็กๆ ที่รายงานว่า ในหลวงได้พระราชทานความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ประสบภัยจากพายุครั้งนั้น อีกทั้งทรงรับผู้บาดเจ็บเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ เพื่อให้พวกเขาสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติสุขโดยเร็ว
24 พ.ค. 2566 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดพิจิตร ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ อัญเชิญเงินพระราชทานจากมูลนิธิฯ ไปมอบให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย จำนวน 7 ครอบครัว และได้มอบถุงพระราชทานรวมทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 450 ถุง แก่ราษฎรที่ประสบวาตภัย ณ ศาลาการเปรียญ วัดเนินปอ ตำบลเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจแก่ราษฎร
ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมทรงรับผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุวาตภัยครั้งนี้ ไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ รวมทั้งพระราชทานอาหารแก่ราษฎรที่ประสบวาตภัย และเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติหน้าที่ในการให้การช่วยเหลือด้วย
ทั้งนี้ พระองค์ยังได้พระราชทานพระราชทรัพย์ สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์หลังใหม่ ทดแทนอาคารหลังเดิมของโรงเรียนวัดเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ที่พังถล่มลงไป เพื่อให้กลับมาใช้ในการเรียนการสอนได้ตามปกติโดยเร็ว ดังที่ได้เห็นความคืบหน้าในประกาศของหน่วยราชการในพระองค์ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
เมื่อประชาชนคนไทยได้รับความเดือดร้อน ในหลวงท่านทรงรับรู้ และพระราชทานความช่วยเหลือมาโดยตลอด ซึ่งบางครั้งก็แทบจะไม่มีการประชาสัมพันธ์ใดๆ เลย พระองค์ท่านทรงงานเช่นนี้มาอย่างสม่ำเสมอ อันเป็นการช่วยสนับสนุนภาครัฐในการเข้าถึงและเยียวยาบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนได้อย่างทันท่วงที ดังเช่นกรณีเหตุการณ์วาตภัยในจังหวัดพิจิตรที่ผ่านมา
ทั้งหมดนี้อาจเป็นเพียงข่าวความคืบหน้าเล็กๆ แต่เป็นความรู้สึกประทับในใจอันยิ่งใหญ่ ที่ทำให้เราทุกคนรู้ว่า ในหลวงท่านทรงรับรู้ความเป็นไป ทรงรับรู้ถึงความเดือดร้อนของประชาชน ทรงห่วงใยและไม่เคยทอดทิ้งพสกนิกรของพระองค์เลย