The French Revolution and What Went Wrong การตีแผ่ความจริงที่ถูกบิดเบือน ของการปฏิวัติฝรั่งเศส

การปฏิวัติฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1789 เป็นเหตุการณ์หนึ่งในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ที่หลายคนมีภาพรับรู้สลักฝังลงในหัวว่า เป็นการปฏิวัติและโค่นล้มระบอบกษัตริย์โดยประชาชน ซึ่งนำไปสู่การมอบ “เสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ” ให้กับทุกคนในแผ่นดินฝรั่งเศส

และปฏิเสธไม่ได้ว่า ในปัจจุบัน มีบุคคลบางกลุ่มพยายามเอาการปฏิวัติฝรั่งเศสมาเป็นต้นแบบ และยุยง ปลุกปั่นมวลชน เพื่อนำไปสู่การล้มล้างระบอบกษัตริย์

ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า เหตุการณ์ปฏิวัติแบบพลิกฟ้า คว่ำแผ่นดินในฝรั่งเศสนั้น แท้จริงแล้วกลับแลกมาด้วยเลือด หยาดเหงื่อ น้ำตา และกองซากศพ

เดือน กรกฎาคม ปี ค.ศ. 2019 มีการตีพิมพ์หนังสือที่น่าสนใจเล่มหนึ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ปฏิวัติในฝรั่งเศส ชื่อเรื่อง The French Revolution and What Went Wrong เขียนโดย Stephen Clarke นักเขียนผู้คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส เจ้าของผลงานหนังสือเรื่อง 1000 Years of Annoying the French

Clarke เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเพื่อต้องการชี้ให้เห็นความจริงว่า การรับรู้เรื่องราวการปฏิวัติฝรั่งเศสที่คนจำนวนไม่น้อยเชื่อนั้น “เป็นเรื่องไม่จริงแทบทั้งสิ้น”

โดยในปัจจุบัน เรื่องราวการปฏิวัติฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1789 ถูกบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์มากมาย และเป็นการบิดเบือนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ Clarke เรียกว่า “a lot of romantic nonsense” หรือ “เรื่องโรแมนติกไร้สาระ” นั่นคือการสร้างเรื่องออกมาในแนวอุดมคติ ใส่สีตีไข่ ให้น่าตื่นเต้น เต็มไปด้วยการปลุกเร้า และเล่าเรื่องการปฏิวัติฝรั่งเศสให้ฟังดูน่าหลงใหลเคลิบเคลิ้ม ส่งผลให้ผู้คนที่ไม่รู้ประวัติศาสตร์การปฏิวัติฝรั่งเศสจริงๆ เข้าใจผิดไปต่างๆ นานา

และคนที่ทำให้ประวัติศาสตร์การปฏิวัติฝรั่งเศส กลายเป็นเรื่องโรแมนติกไร้สาระ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนฝรั่งเศสเอง

ดูๆ ไปเรื่องราวเหล่านี้ ก็เหมือนจะเป็นเรื่องคุ้นๆ ใกล้ตัวเรานะครับ

หนังสือเล่มนี้ยังบอกเล่าข้อเท็จจริงในช่วงเวลาแห่งการปฏิวัติฝรั่งเศสด้วยว่า ใครคือฮีโร่ ใครคือผู้ร้ายตัวจริง และพวกนักปฏิวัติ นักเคลื่อนไหวที่บางคนให้การยกย่องอย่าง Robespierre, Danton, Mirabeau, Marat แท้จริงแล้วก็ไม่ต่างอะไรกับนักการเมืองบ้าอำนาจที่สองมือเปื้อนไปด้วยเลือด และสุดท้ายเส้นทางของนักปฏิวัติเหล่านี้ก็จบลงด้วยการหักหลังกันเอง

ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ ปัจจุบันต่างถูกลืมเลือนไปจนหมดสิ้น

Clarke ได้รวมรวมเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในปี ค.ศ. 1789 และช่วงเวลาหลังจากนั้น โดยอ้างอิงข้อมูลจากการสืบค้นจดหมายเหตุรัฐสภา โดยทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงของการปฏิวัติฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยการใช้อุบาย สร้างข่าวปลอม และการใช้คำปราศรัยที่เป็นการยุยง ปลุกปั่นมวลชน จนนำไปสู่เหตุการณ์นองเลือดในประวัติศาสตร์

ซึ่งในเวลาต่อมา ข้อเท็จจริงทั้งหมดนี้ได้ถูกบิดเบือน สร้างภาพให้การปฏิวัติฝรั่งเศสครั้งนั้นกลายเป็นตำนานแห่งการปฏิวัติของประชาชน เป็นการกวาดล้างระบอบกษัตริย์โดยชอบธรรม และนำไปสู่การวางรากฐานความเป็นสาธารณรัฐที่สงบสุขของฝรั่งเศส

ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความจริงโดยสิ้นเชิง

Clarke ยังได้นำเสนอข้อเท็จจริงอีกด้านของการปฏิวัติฝรั่งเศสที่ว่า แท้จริงแล้วชาวฝรั่งเศสในขณะนั้นส่วนใหญ่ “ไม่ต้องการล้มล้างระบอบกษัตริย์” รวมทั้งยังเชื่อมั่นในการปฏิรูปอย่างสันติ

และสุดท้ายภายหลังเหตุการณ์ปฏิวัติช่วงปี 1789 – 1792 ระบอบสาธารณรัฐของฝรั่งเศสกลับไม่ได้ลงตัวอย่างที่หลายคนเข้าใจ ในช่วงเวลานั้น ฝรั่งเศสกลับเต็มไปด้วย Fake News และการบิดเบือนจากเหล่านักประชานิยม (populists) จนนำไปสู่ยุคสงครามกลางเมืองซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 300,000 คน

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวอีกด้านหนึ่งของประวัติศาสตร์การปฏิวัติฝรั่งเศส ที่ Stephen Clarke ได้นำเสนอไว้ในหนังสือ French Revolution and What Went Wrong ซึ่งถือเป็นการนำเสนอข้อเท็จจริง ที่ทำให้เกิดการเรียนรู้และสร้างความเข้าใจในประวัติศาสตร์อย่างถูกต้อง

อีกทั้งยังสะกิดให้เห็นแง่มุมที่ว่า แท้จริงแล้ววิธีการเดิมๆ ซึ่งมักวนกลับมาให้เห็นอยู่ทุกยุคสมัย ของพวกนักปฏิวัติหรือนักวิชาการปลอมๆ ก็ไม่พ้นการบิดเบือนประวัติศาสตร์ แล้วนำมาใช้ยุยง ปลุกปั่นมวลชน เพื่อหวังผลในการสร้างประโยชน์ให้กับตัวเอง