ตรรกะผิดเพี้ยนของผู้ที่พยายามโยงทุกเรื่องเข้ากับสถาบันพระมหากษัตริย์

“มันคือการสมัครเข้ามา ไม่ใช่การแต่งตั้ง”

เขามาเอง ให้ปฏิเสธยังไง ในเมื่อในตอนนั้นมันไม่มีอะไรที่จะใช้ปฏิเสธได้

มีคนบางกลุ่มที่มีความพยายามในการโยงผู้กำกับโจ้ เข้ากับสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยใช้ประเด็นที่ผู้กำกับโจ้เข้าร่วมกับหน่วยจิตอาสาพระราชทาน 904 มาเชื่อมโยง ซึ่งนับว่าเป็นตรรกะที่ค่อนข้างจะมีความผิดเพี้ยนพอสมควร

เรื่องนี้เป็นสิ่งที่สังคมต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้องว่า โครงการจิตอาสาพระราชทานหรือโครงการดี ๆ ทั้งหลายนั้น ย่อมก็มีคนไม่ดีแฝงตัวเสมอ เหมือนโจรบางคนที่ชอบเข้าวัดทำบุญ เจ้าอาวาสหรือพระสงฆ์องค์เจ้าเอง ท่านก็ไม่ทราบว่าใครทำอะไรมา หรือเงินบริจาคนั้นมาจากไหน หน่วยงานจิตอาสาก็เช่นกันที่หากใครเข้ามาทำความดีเป็นจิตอาสา หน่วยงานจิตอาสาย่อมเปิดกว้างให้แก่ทุกคนไม่ว่าเขาจะเป็นใคร

หากแต่เมื่อพบว่าบุคคลเหล่านั้น ประพฤติไม่ชอบ องค์กรก็ย่อมสามารถปฏิเสธการเข้าร่วมของบุคคลเหล่านั้น

ปัจจุบันผู้กำกับโจ้ ถูกถอดจากรายชื่อในหน่วยจิตอาสาและริบคืนชุดจิตอาสาพระราชทานแล้ว หลังปรากฎความผิดชัดเจนในคดีอาญา ซึ่งไม่เพียงแต่ผู้กำกับโจ้ แต่ยังรวมถึงนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ที่โดนคดีฉ้อโกงก่อนหน้านี้ด้วย

ฉันใดก็ฉันนั้น เสมือนในกลุ่มนักกิจกรรมที่เรียกร้องประชาธิปไตยและความเท่าเทียม แต่กลับพบว่านักกิจกรรมหลายคนในกลุ่ม มีการฉ้อโกงเงินบริจาค มีการทำร้ายร่างกายครอบครัว หรือมีการข่มขืนนักกิจกรรมด้วยกันเอง ก็มิได้แปลว่า “คนที่สนับสนุนประชาธิปไตยเป็นคนที่สนับสนุนการฉ้อโกง ข่มขืน ทำร้ายร่างกายครอบครัว”

หลักการพื้นฐานดังกล่าวนี้ถือเป็น ‘หลักในการคิดวิเคราะห์และแยกแยะ’ การกระทำไม่ดีของตัวบุคคล ออกจากหลักการหรือการดำเนินการขององค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ ที่ทุกคนไม่ว่าฝ่ายไหนควรจะตระหนักไว้