21 ตุลาคม 2565 ขอน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า ทรงพบกับสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ขณะทรงศึกษาวิชาพยาบาลที่ โรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา และทรงอภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2463

ทรงมีพระราชธิดาและพระราชโอรส 3 พระองค์ ซึ่งได้รับพระราชทานนามเมื่อแรกประสูติว่า “หม่อมเจ้ากัลยาณิวัฒนา มหิดล” “หม่อมเจ้าอานันนทมหิดล” และ “พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช”

ซึ่งต่อมา พระราชโอรสทั้ง 2 พระองค์ ทรงเจริญวัยและเป็นถึงพระเจ้าแผ่นดินผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของคนไทยทั้งประเทศ นั่นคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9

เราทุกคนต่างรับรู้กันดีว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีพระปรีชาสามารถและมีพระอัจฉริยภาพรอบด้าน ทรงคิดค้นโครงการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ด้วยความเข้าใจในผู้คนและธรรมชาติอย่างแท้จริง สิ่งเหล่านี้ย่อมมาจากการเลี้ยงดูและปลูกฝังจากสมเด็จย่าเมื่อครั้งในหลวงรัชกาลที่ 9 ยังทรงพระเยาว์

สมเด็จย่าท่านทรงเลี้ยงดูพระราชโอรสธิดาอย่างไร ? จึงทำให้ทั้ง 3 พระองค์ ทรงเจริญวัยมาเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย และเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่ที่ทั่วโลกต่างให้การยอมรับ

เมื่อสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ สิ้นพระชนม์ สมเด็จย่าซึ่งมีพระชนมายุเพียง 29 พรรษา ต้องทรงรับพระราชภาระอบรมเลี้ยงดูพระราชโอรสธิดาทั้งสามพระองค์ซึ่งยังทรงพระเยาว์ โดยขณะนั้นสมเด็จพระเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระราชธิดาองค์โตทรงมีพระชนมายุ 6 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระราชโอรสองค์ที่สองทรงมีพระชนมายุ ครบ 4 พรรษา และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระชนมายุเพียง 1 พรรษา 9 เดือน

สมเด็จย่าทรงอบรมเลี้ยงดูพระราชโอรสธิดาอย่างใกล้ชิดด้วยพระองค์เอง ด้วยความเอาพระทัยใส่ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเสวย บรรทม การศึกษาเล่าเรียน หรือเล่น โดยทรงเน้นเรื่องการอนามัย และการมีระเบียบวินัยเป็นสำคัญ

พระองค์ทรงเริ่มจากการเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับพระราชโอรสธิดา ทรงเป็นต้นแบบในเรื่องของการมีวินัย การรักการค้นคว้าศึกษาหาความรู้ การประพฤติตัวที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ซึ่งก็มาจากพื้นฐานจากการที่สมเด็จย่าทรงมาจากครอบครัวสามัญชนธรรมดา ที่ดำรงชีวิตด้วยความสมถะ อดทน และขยันหมั่นเพียรมาโดยตลอด

สมเด็จย่าทรงเน้นเรื่องวินัยในการดำเนินชีวิต พระองค์รับสั่งถึงคำว่า “ระเบียบวินัยอย่างมีหลักการ” คือ การกำหนดขอบเขตของเวลา ในการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความสมดุลให้กับชีวิต ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเติบโตของเด็กๆ ต่อไป

ในเรื่องการศึกษาเล่าเรียน สมเด็จย่าทรงเน้นเรื่องการค้นคว้าเพื่อให้รู้ลึก รู้จริง มากกว่าเน้นเรื่องคะแนน และยังทรงมีส่วนร่วมในขั้นตอนของการเรียนรู้ด้วย เช่น ถ้าพระราชโอรสธิดาไม่ทรงทราบเรื่องไหน พระองค์จะต้องไปค้นคว้าจาก Encyclopedia หรือ มีครั้งหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ต้องทรงท่องกลอนเป็นภาษาเยอรมัน แต่ไม่ทรงโปรดที่จะท่อง สมเด็จย่าทรงไม่เคยเรียนภาษาเยอรมันมาก่อน ได้เสด็จไปหาคุณครู เพื่อเรียนท่องคำกลอนนั้นจนคล่อง และนำมาท่องให้พระโอรสฟัง ทำให้พระโอรสรู้สึกประหลาดใจ และเป็นแรงบันดาลใจ ให้ทรงหันมาเริ่มท่องกลอนนั้น

และสิ่งที่ถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญในการหล่อหลอมพระราชโอรสธิดาให้มีความเข้าใจในผู้คนและธรรมชาติ คือ การเรียนรู้จากการเล่น สมเด็จย่าจะให้พระราชโอรสธิดาเล่นอย่างอิสระ โดยจะทรงเน้นให้เล่นกับสิ่งที่มีในธรรมชาติ มากกว่าของเล่น และจะทรงบอกวิธีในการเล่นที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย ผลจากการเล่นที่พระราชโอรสธิดา ได้ทรงเล่นและทำการทดลองกับธรรมชาติเหล่านี้ ส่งผลให้ทั้งสามพระองค์ ได้พัฒนาความคิดและความสามารถ โดยไม่ทรงรู้ตัว

จากพระนิพนธ์ “เจ้านายเล็กๆ-ยุวกษัตริย์” ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ทรงเขียนถึงการเล่นและเรียนรู้จากธรรมชาติเมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ความว่า …

“ในสมัยนั้นวังสระปทุมยังนับว่าอยู่ชานเมือง อากาศยังบริสุทธิ์ แม่จึงอยากให้ลูกๆ ได้อยู่กลางแจ้งให้มากที่สุด ท่านจัดที่ทาง สิ่งก่อสร้าง และอุปกรณ์ให้ทีละเล็กทีละน้อย สิ่งแรกที่สร้างงขึ้นคือที่เล่นทราย ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่เห็นได้ในสวนสาธารณะต่างประเทศ คือเป็นกรอบไม้สี่เหลี่ยมซึ่งมีทรายอยู่ข้างใน …

… ในไม่ช้าการเล่นในกองทรายนั้นจะรู้สึกว่าไม่สนุกนักเพราะเมื่อเอาน้ำเทลงไปในทราย น้ำก็จะซึมลงไปหมด จึงย้ายกันออกมาเล่นข้างนอก ขุดคลองในดิน นำน้ำมาใส่ให้มาไหลในคลองแล้ววิ่งไปเก็บกิ่งไม้ที่พุ่มไม้ วิ่งกลับมา ‘ปลูก’ ไว้ริมคลอง …

… นี่คือการสัมผัสครั้งแรกกับงานชลประทานและการปลูกป่า”

ซึ่งการได้เล่นและเรียนรู้จากธรรมชาติ การได้อยู่กับดิน กับน้ำ กับต้นไม้ กับธรรมชาติเหล่านี้เอง ที่เป็นสิ่งหล่อหลอมในหลวงรัชกาลที่ 9 ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ซึ่งไม่มีใครคาดคิดมาก่อนเลยว่า สิ่งเหล่านี้ต่อมาได้กลายมาเป็นรากฐานทางความคิด นำไปสู่โครงการพระราชดำริต่างๆ กว่า 4,000 โครงการ ที่ช่วยให้คนไทยได้พ้นจากความทุกข์ยากลำบาก

นอกจากนี้ รูปแบบการเลี้ยงดูที่พระราชโอรสธิดาทั้ง 3 พระองค์ทรงได้รับจากสมเด็จย่านั้น ต่อมาภายหลังได้ถูกนักวิทยาศาสตร์ และนักจิตวิทยา ค้นพบและเกิดเป็นแนวคิดการจัดการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาสมอง หรือ Brain-based Learning (BBL) ซึ่งปัจจุบันได้ถูกนำมาทดลองใช้อย่างแพร่หลายในระบบการศึกษาสากล

ทั้งหมดนี้ คือวิธีการที่สมเด็จย่าทรงเลี้ยงดู ปลูกฝัง และส่งเสริมพระราชโอรสธิดาของพระองค์ ให้มีความเข้าใจในชีวิตและธรรมชาติอย่างรอบด้าน อย่างสมบูรณ์ทั้งด้านจิตใจและสติปัญญา กระทั่งทั้งสามพระองค์ทรงเจริญวัยด้วยพระอัจฉริยภาพรอบด้าน และทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ดังข้อความที่สมเด็จย่าทรงนิพนธ์ถึงสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เมื่อครั้งพระราชโอรสธิดาทั้งสามพระองค์ทรงเข้าศึกษาที่โรงเรียนในสวิตเซอร์แลนด์ ความว่า …

“… ลูกของหม่อมฉัน หม่อมฉันรักอย่างดวงใจ และหม่อมฉันมีความตั้งใจอยู่เสมอ ที่จะนำให้ลูกไปในทางที่ถูกที่ดี สำหรับจะได้เป็นประโยชน์แก่ตนเอง ญาติ และบ้านเมือง ตัวของหม่อมฉันเองทำประโยชน์อะไรให้บ้านเมืองไม่ได้มาก แต่ถ้าได้ช่วยลูกๆ ให้ได้รับการอบรม และเล่าเรียนในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองได้แล้วหม่อมฉันก็รู้สึกอิ่มใจเหมือนกัน …”

TOP
y

Emet nisl suscipit adipiscing bibendum. Amet cursus sit amet dictum. Vel risus commodo viverra maecenas.

r

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า