เปิดกลลวงของ ‘สงครามล่าอาณานิคม’ ยุคใหม่ ที่กำลังทำลายประเทศไทย โดยที่เราไม่รู้ตัว

สมัยก่อนการล่าอาณานิคมของชาติตะวันตกคือการ ‘ยึด’ เอาดินแดนต่างๆ และให้คนขาวเข้าไปตั้งถิ่นฐานถาวร แล้วสถาปนารัฐบาลอาณานิคมขึ้นเพื่อปกครองชนพื้นเมือง จากนั้นจึงทำการดูดกลืนทรัพยากรต่างๆ กลับสู่ประเทศแม่ บนการอ้างว่าทำเพื่อมอบ ‘ความศิวิไลซ์’ และ ‘สิทธิมนุษยชน’ ให้กับคนพื้นเมืองที่ยังล้าหลัง

นั่นคือรูปแบบการ ‘ล่าอาณานิคม’ ในอดีต

แต่ปัจจุบัน ประเทศมหาอำนาจได้เปลี่ยนวิธีการแทรกแซงทางการเมืองประเทศอื่นได้แบบแนบเนียน โดยจะไม่เข้าไปมีบทบาทโดยตรงอย่างโจ่งแจ้ง แต่จะใช้การแทรกแซงแบบที่เรียกว่า ‘สงครามตัวแทน’ (proxy war) โดยพวกประเทศมหาอำนาจจะใช้อิทธิพลหรือเครือข่ายในการแทรกแซงการเมืองของประเทศอื่นๆ เพื่อนำมาเป็นรัฐบริวาร (client state) ของตนเอง

กรณีชัดๆ คือการประท้วงในฮ่องกงช่วงปี 2562-2563 ซึ่งมีการสนับสนุนความขัดแย้งภายในประเทศระหว่างพลเมืองฮ่องกงบางส่วนกับรัฐบาลจีนคอมมิวนิสต์ โดยฝีมือของประเทศมหาอำนาจ การแทรกแซงที่ว่านี้ไม่ใช่การสนับสนุนด้านอาวุธและทหาร แต่เป็นการแทรกแซงการเมืองในฮ่องกงผ่าน ‘คำแนะนำ’ ในการเคลื่อนไหวให้แก่แกนนำของม็อบพลเมืองฮ่องกง ประเด็นนี้ทำให้รัฐบาลจีนไม่พอใจมาก เพราะถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นโดยตรง

ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้แทบไม่ต่างกับที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเลย

ในช่วงเวลาไล่เลี่ยจากม็อบฮ่องกง คือช่วงปี 2563 เป็นต้นมา จะเห็นว่าตอนนั้นเป็นช่วงที่เกิดม็อบปลดแอกในประเทศไทยพอดี ซึ่งถ้ามองดูดีๆ การประท้วงทั้งในฮ่องกงและไทยจะมีความสอดคล้องกัน ทั้งรูปแบบการประท้วง ข้อเรียกร้อง ไปจนถึงการประกาศตัวว่าเป็นพันธมิตรซึ่งกันและกัน แถมการต่อต้านรัฐบาลท้องถิ่นในแถบภูมิภาคนี้ก็เหมือนจะเกิดขึ้นเป็นกระแสเดียวกันด้วย ตั้งแต่ฮ่องกง ไทย พม่า ลาว และมาเลเซีย

ซึ่งความขัดแย้งตั้งแต่ของฮ่องกงมาจนถึงประเทศไทยนั้น เรียกได้ว่าเป็นส่วนขยายของ ‘สงครามทางความคิด’ ที่มีชาติมหาอำนาจเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังนั่นเอง เรื่องนี้นักสังเกตการณ์การเมืองระหว่างประเทศล้วนวิเคราะห์และดูออกทั้งสิ้น

การแทรกแซงของประเทศมหาอำนาจในทุกวันนี้ ถือเป็นการละเมิดหลักอธิปไตยของประเทศอื่นๆ อย่างชัดแจ้ง และเป็นสิ่งยืนยันว่า ประเทศมหาอำนาจเหล่านี้หาได้เคารพในข้อตกลงระหว่างประเทศขั้นพื้นฐานเลย แถมยังแสดงเจตนาที่จะเข้าไปควบคุมหรือมีอำนาจเหนือประเทศอื่นๆ ด้วยข้ออ้างถึงความเป็นคุณค่าสากล (universal values) ที่ประเทศมหาอำนาจเป็นผู้กำหนดขึ้นมา ซึ่งไม่ต่างอะไรกับสงครามล่าอาณานิคมยุคใหม่

และทุกวันนี้ประเทศไทยก็กำลังตกอยู่ในสภาวะ ‘กึ่งอาณานิคม’ และเสี่ยง ‘สูญเสียเอกราช’ ให้แก่ชาติตะวันตกในสงครามครั้งนี้ โดยที่เราแทบไม่รู้ตัว