‘ปาตานี’ ประวัติศาสตร์ที่ ‘ไม่มีจริง’ เมื่อกลุ่มการเมืองอุปโลกน์อดีตและบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อนำไปสู่ความชอบธรรมของการแบ่งแยกดินแดน

ปาตานี’ ไม่ใช่อาณาจักรก่อนที่จะเป็นรัฐชาติ แต่เป็นคำที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นใหม่ และในสมัยก่อนมีการใช้แต่เพียงคำว่า ‘ปัตตานี’ หรือ ‘ปตานี’ เท่านั้น ซึ่งหากพูดถึงอาณาจักรปัตตานีโบราณนั้น ก็ไม่ได้มีดินแดนครอบคลุม 4 อำเภอของสงขลาในปัจจุบันซึ่งก็คือ จะนะ เทพา สะบ้าย้อย นาทวี ตามที่มีการบิดเบือนกัน

ดังนั้นการใช้คำว่า ‘ปาตานี’ ด้วยเหตุผลที่ว่า เพื่อไม่ให้ลืมประวัติศาสตร์ของพื้นที่ชายแดนใต้ จึงเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะ ‘ปาตานี’ ในแง่ของพื้นที่ทางประวัติศาสตร์นั้น ‘ไม่มีจริง’ เป็นแต่เพียงคำที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ในช่วงไม่กี่สิบปีมานี้เอง

ที่สำคัญ ทุกวันนี้คำว่า ‘ปาตานี’ ได้ถูกคนบางกลุ่มเอามาใช้เพื่อหวังผลทางการเมือง และได้กลายมาเป็นอัตลักษณ์ของพวกขบวนการแบ่งแยกดินแดนในการก่อเหตุรุนแรงไปเรียบร้อยแล้ว

การที่มีบางคนอ้างว่า ต้องการใช้คำว่า ‘ปาตานี’ เพื่อสร้างอัตลักษ์ของพื้นที่ภาคใต้ต่อไปในอนาคต นั่นเป็นเสรีภาพที่ย่อมกระทำได้ หากยอมรับว่าคำๆ นี้คือคำใหม่ที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อวิถีของคนพื้นถิ่นจริงๆ โดยไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน

แต่ความจริงที่ปรากฏมาตลอดคือ มีการพยายามบิดเบือนและเคลมว่า ‘ปาตานี’ คืออาณาจักรแต่โบราณที่ครอบคลุมดินแดน 3 จังหวัดชายแดนใต้ รวมถึง 4 อำเภอของสงขลา และกลายเป็นคำที่ถูกนำไปพูดถึงโดยแฝงนัยทางการเมือง กระทั่งถูกพวกกลุ่มขบวนการฯ นำไปใช้อ้างความชอบธรรมในการก่อเหตุ จนนำความเดือดร้อนแสนสาหัสมาสู่คนในจังหวัดชายแดนใต้ (โดยเฉพาะ 4 อำเภอของสงขลา) ในที่สุด

การใช้คำว่า ‘ปาตานี’ ด้วยข้ออ้างที่ว่า ‘ทำเพื่ออนาคต’ นั้น ทาง ฤๅ อยากถามกลับเหมือนกันว่า แล้วอนาคตที่เกิดจากการ ‘บิดเบือนประวัติศาสตร์และอุปโลกน์อดีตที่ไม่มีจริงขึ้นมา’ ของคนกลุ่มนี้ จะเป็นอนาคตแบบไหนกัน ?