ข้อเท็จจริงเบื้องหลังการเรียกร้องของ ตะวัน-แบม เมื่อกลุ่มการเมืองใช้พลังเยาวชนมาเคลื่อนไหวแทนตัวเอง

ล่าสุด ตะวัน-แบม ได้ประกาศยกระดับการอดอาหารเพื่อกดดันศาลให้ยกเลิกการควบคุมตัวเพื่อนกลุ่มทะลุแก๊สซึ่งเป็นนักโทษคดีครอบครองระเบิด และถูกจับที่ด่านตรวจ APEC เมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา

อยากถามว่า หากเรายอมรับการเรียกร้องในลักษณะนี้ จนกลายเป็นบรรทัดฐานของสังคมขึ้นมา อะไรจะเกิดขึ้น หากคนกลุ่มหนึ่งอ้างคำว่า “เสรีภาพ” แล้วใช้กดดันกระบวนการยุติธรรมได้ สังคมส่วนรวมจะอยู่กันอย่างไร

เรื่องนี้ไม่ต่างกับกรณีก่อนหน้านี้ที่ทีมงาน ฤๅ ได้มีแถลงการณ์โต้กลับไปยังบรรดาอาจารย์คณะนิติศาสตร์ที่ออกมาเรียกร้องกรณี ตะวัน-แบม ผู้ต้องหาคดี ม.112 ที่ได้ยื่นคำร้องขอถอนประกันตนเอง และศาลก็ได้มีคำสั่งรับคำร้องและอนุญาตให้ถอนประกัน

การเรียกร้องของบรรดาอาจารย์คณะนิติศาสตร์นั้น ทำให้เกิดการชี้นำให้สังคมเข้าใจผิดว่า กระบวนการยุติธรรมในบ้านเราลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยเฉพาะคนที่ถูกดำเนินคดีในความผิด ม.112 และการที่ศาลอนุญาตให้ ตะวัน-แบม ถอนประกัน ก็เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

คลิปวิดีโอนี้ ฤๅ จึงขอเคลียร์ชัดๆ ในประเด็นต่างๆ นั่นก็คือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิทธิการประกันตัวในกระบวนการยุติธรรม ที่มีบางคนออกมาบิดเบือนว่าไม่มีความเท่าเทียม รวมไปถึงเรื่องการขอถอนประกันตนเองของ ตะวัน-แบม ซึ่งถือเป็นสิทธิของจำเลยอยู่แล้ว และไม่มีกฎหมายข้อไหนมารับรองให้ศาลปฏิเสธคำร้องนี้

และประเด็นสำคัญคือการเรียกร้องยกเลิก ม.112 ซึ่งน่าสังเกตว่า วาระการแก้ไข ม.112 ไม่มีพรรคการเมืองพรรคไหนให้ความสนใจนำมาเป็นแคมเปญหาเสียงเลย จะมีก็แต่นักการเมืองบางพรรค ที่ทำทีออกมาสนับสนุนการเคลื่อนไหวของ ตะวัน-แบม สนับสนุนเห็นด้วยกับการแก้ไขหรือยกเลิก ม.112 แต่พอเอาเข้าจริง เรื่อง ม.112 กลับไม่ใช้หนึ่งในนโยบายของพรรคในการหาเสียงเลย

ซึ่งการกระทำของนักการเมืองเหล่านี้ ก็ไม่ต่างจากการเอาอิสรภาพและพลังของเยาวชนมาเคลื่อนไหวเรียกร้องแทนตัวเอง และใช้อนาคตของเด็กๆ เหล่านี้มาเป็นเครื่องมือในการบิวต์อารมณ์น้องๆ นักกิจกรรมรุ่นต่อไปให้รู้สึกโกรธแค้นคุกรุ่น และพร้อมออกหน้ามาต่อสู้แทนคนพวกนี้วนกันไปไม่จบไม่สิ้น