Propaganda การตั้งคำถามของคนไม่ยอมรับความจริง

มีคนบางกลุ่มยังคงออกมาตั้งคำถาม ตั้งข้อสังเกต หรือแม้กระทั่งกล่าวหาว่า การทรงงานของในหลวง ร.9 คือ Propaganda บางคนออกมาให้ข้อมูลว่า พระองค์ไม่ได้ทรงงานหนักจริง แต่มี “ทีมงาน” ที่คอย PR สร้างภาพมาต่อเนื่องเป็นเวลา 30-40 ปี เพื่อโฆษณาชวนเชื่อให้เห็นว่า ในหลวงทรงงานหนักเพื่อประชาชน

ทีนี้ถ้าเราลองมาดูกันตามข้อเท็จจริง จะเห็นว่า คนที่ชอบออกมาตั้งข้อสังเกต คอยตั้งแง่จับผิดในเรื่องนี้ ล้วนเป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เดือดร้อนแทบทั้งนั้น บางคนมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความสะดวกสบาย ไม่เคยเห็น ไม่เคยสัมผัสการทรงงานจริงๆ ด้วยซ้ำ

ไม่มีอะไรที่จะมายืนยันหรือพิสูจน์คำกล่าวหานั้นได้เลย

ในขณะที่ชาวบ้านราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ยากลำบาก คนเหล่านี้ต่างหากคือคนที่ได้รับประโยชน์จริงๆ จากการทรงงานของในหลวง ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของชาวเขาปกากะญอ ชาวหมู่บ้านเลอตอ ชาวบ้านปูโยะ ตากใบ และคนอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศ คือสิ่งที่พิสูจน์เรื่องการทรงงานของในหลวงได้เป็นอย่างดี

และคนเหล่านี้ก็ไม่เคยมีใครออกมาบอกว่า การทรงงานของในหลวงคือ Propaganda

หรือแม้แต่คนที่ร่วมถวายงาน คอยติดตามบันทึกภาพพระราชกรณียกิจของในหลวง ร.9 แทบทุกครั้ง ก็ออกมายืนยันว่า ตลอด 40-50 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีทีมงานที่เป็นของพระองค์ท่านที่จะมาคอยวางแผนทำการประชาสัมพันธ์อะไรเลย ภาพการทรงงานที่เผยแพร่ส่วนใหญ่ ก็เป็นภาพที่หน่วยงานภาคเอกชนหรือองค์กรต่างๆ ไปขอพระราชทานออกมาเผยแพร่ทั้งนั้น

และการที่องค์การสหประชาชาติได้ถวาย “รางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์” ให้แก่ในหลวง ร.9 ในปี พ.ศ. 2550 เพราะเล็งเห็นว่าพระราชกรณียกิจของพระองค์ เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนามนุษย์ สิ่งเหล่านี้ก็น่าจะเป็นการยืนยันถึงผลสำเร็จจากการทรงงานของพระองค์ได้เป็นอย่างดี

สำหรับคนที่พยายามตั้งแง่ในเรื่องนี้ ก็ลองตั้งคำถามใหม่ดูครับ ว่าองค์กรระดับโลกอย่างองค์การสหประชาชาติจะร่วมโฆษณาชวนเชื่อด้วยหรือ ?

หรือสุดท้ายคำว่า “Propaganda” ก็คงเป็นได้แค่คำกล่าวหาของคนที่ไม่ยอมรับความจริงเท่านั้น