Francis B.Sayre ศาสตราจารย์กฎหมายชาวอเมริกัน ผู้ร่วมร่างรัฐธรรมนูญฉบับรัชกาลที่ 7
ในปลายรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ชาวต่างชาติผู้มีบทบาทสำคัญอย่างมาก ที่เข้ามารับราชการในประเทศสยาม คือ ดร. ฟรานซิส บี. แซร์ (Dr. Francis Bowes Sayre) ซึ่งเป็นผู้ที่ช่วยให้สยามรอดพ้นจากการถูกเอารัดเอาเปรียบ จากสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรมในสมัยจักรวรรดินิยม ทำให้ในหลวงรัชกาลที่ 6 พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็น “พระยากัลยาณไมตรี”
ต่อมา ดร. ฟรานซิส บี. แซร์ ยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญ ในการร่วมร่างเค้าโครงรัฐธรรมนูญ ฉบับของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เมื่อปี พ.ศ. 2469 อีกด้วย
ดร. ฟรานซิส บี. แซร์ เกิดที่เมืองเซาธ์เบธเลเฮม ในเพนซิลเวเนีย เรียนจบด้านกฎหมายจากฮาร์วาร์ด เมื่อปี พ.ศ. 2455 และเริ่มงานด้านกฎหมายด้วยการเป็นผู้ช่วยอัยการแห่งนิวยอร์กเคาตี
ดร. ฟรานซิส บี. แซร์ ได้รับข้อเสนอจากคณบดีโรงเรียนกฎหมายฮาร์วาร์ด ให้ไปเป็นที่ปรึกษาการต่างประเทศของพระเจ้าแผ่นดินสยาม ซึ่งเขาตอบตกลงด้วยอยากเผชิญกับความแปลกใหม่ จึงได้เข้ามารับราชการในเมืองสยามเมื่อปี พ.ศ. 2466 ช่วงปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
ขณะนั้นสยามกำลังถูกเอารัดเอาเปรียบ จากสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรมในสมัยจักรวรรดินิยม โดยเฉพาะปัญหาสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ซึ่งสัญญาที่เป็นปัญหาหนัก ก็คือ “สนธิสัญญาเบอร์นี” ในรัชกาลที่ 3 และ “สนธิสัญญาเบาริ่ง” ที่ทำในสมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งประเทศสยามมีข้อเสียเปรียบอยู่หลายจุด
จากการที่สยามเข้าร่วมสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้สหรัฐอเมริกายินยอมยกเลิกสิทธิสภาพนอกอาณาเขตกับสยาม แต่กับชาติพันธมิตรอื่น ๆ อย่างเช่นฝรั่งเศส หรืออังกฤษ การเจรจาในการแก้ไขสนธิสัญญากลับเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากทั้งสองชาติต่างก็พยายามรักษาผลประโยชน์ของตนอย่างเต็มที่
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงแต่งตั้ง ดร. ฟรานซิส บี. แซร์ ให้เป็นผู้แทนประเทศสยามไปเจรจาขอแก้ไขสนธิสัญญากับชาติต่าง ๆ ในยุโรป โดยเริ่มออกเดินทางไปปฏิบัติงานในปี พ.ศ. 2467 และด้วยความสามารถทางการทูตของ ดร. ฟรานซิส บี. แซร์ ทำให้การเจรจาแก้ไขสนธิสัญญากับประเทศต่าง ๆ ประสบผลสำเร็จ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 จึงได้พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น “พระยากัลยาณไมตรี”
กระทั่งในปี พ.ศ. 2468 ดร. ฟรานซิส บี. แซร์ ก็ได้กราบถวายบังคมลาออกจากราชการของสยาม และเดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ยังคงติดต่อกับประเทศสยามอยู่เสมอด้วยความสัมพันธ์อันดี
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใช้ในประเทศ เมื่อปี พ.ศ. 2469 ซึ่ง ดร. ฟรานซิส บี. แซร์ คือผู้มีบทบาทสำคัญในการร่วมร่างเค้าโครงรัฐธรรมนูญนี้
ก่อนหน้าที่จะมีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้นั้น ในหลวงรัชกาลที่ 7 ได้มีพระราชหัตถเลขาเป็นคำถามถึง ดร. ฟรานซิส บี. แซร์ 9 ข้อ โดยคำถาม 4 ข้อแรกนั้น ว่าด้วยการปกครองระบอบประชาธิปไตย
ซึ่งในข้อ 3 ในหลวงรัชกาลที่ 7 ทรงตั้งคำถามว่า “หากประเทศนี้จำเป็นต้องมีระบบรัฐสภาเข้าสักวันหนึ่ง การปกครองในระบบรัฐสภาแบบแองโกล – แซกซัน นั้นเหมาะสมกับชาวตะวันออกหรือไม่?”
และคำถามข้อ 4 ทรงตั้งคำถามว่า “ประเทศนี้พร้อมหรือยังที่จะมีการปกครองในระบบผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน?”
พร้อมกันนี้ ในหลวงรัชกาลที่ 7 ทรงให้พระราชวินิจฉัยเพิ่มเติมด้วยว่า “ในคำถามที่ 3 นั้นข้าพเจ้าเองยังไม่แน่ใจนัก ส่วนคำถามที่ 4 โดยความเห็นส่วนตัวข้าพเจ้าขอย้ำว่าไม่”
เมื่อ ดร. ฟรานซิส บี. แซร์ ได้อ่านแล้ว จึงได้ถวายความเห็นเกี่ยวกับโครงสร้างที่เหมาะสมของรัฐบาลสำหรับสยามในสมัยนั้นกลับมาว่า
ข้าพเจ้าไม่คิดว่าการพิจารณาให้มีระบบรัฐสภา โดยสมาชิกมีที่มาจากประชาชนนั้น เป็นสิ่งที่พึงปฏิบัติได้ในสยาม ณ เวลานี้ ระบบรัฐสภาที่สามารถทำงานได้นั้น ขึ้นอยู่กับผู้ลงคะแนนเสียงที่มีการศึกษา หากปราศจากการควบคุมอย่างชาญฉลาดโดยประชาชนแล้ว องค์กรเช่นนี้ย่อมเสื่อมทรามลง กลายเป็นองค์กรทุจริตและเผด็จการอำนาจเป็นแน่ จนกว่าประชาชนทั่วไปในสยามจะได้รับการศึกษาที่สูงกว่าที่เป็นอยู่ มันคงอันตรายเกินไปที่จะตั้งรัฐสภาภายใต้การควบคุมของประชาชน
พร้อมกันนี้ ดร. ฟรานซิส บี. แซร์ ยังได้แนบร่างรัฐธรรมนูญ 12 มาตรา ที่เขาเรียกว่า “Outline of Preliminary Draft” หรือเค้าโครงเบื้องต้นว่าด้วยโครงสร้างของรัฐบาล ซึ่งตามความเห็นของเขาถือเป็นร่างรัฐธรรมนูญการปกครองที่เหมาะกับสยามที่สุดในขณะนั้น
แต่สุดท้าย กลับเกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 เสียก่อน รัฐธรรมนูญฉบับของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ ดร. ฟรานซิส บี. แซร์ มีส่วนช่วยในการร่างนั้น จึงไม่ได้นำออกมาประกาศใช้
ทั้งนี้ แม้ ดร. ฟรานซิส บี. แซร์ จะพ้นจากหน้าที่ในสยามไปแล้ว เขาก็ยังได้รับการยอมรับนับถือจากรัฐบาลสยามเป็นอย่างยิ่ง และยังได้เดินทางกลับมาเยี่ยมเมืองไทยอยู่หลายครั้ง กระทั่งในวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2515 พระยากัลยาณไมตรี ดร. ฟรานซิส บี. แซร์ ก็ได้ถึงแก่อนิจกรรมที่บ้านพักในกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา
จะเห็นได้ว่า ดร. ฟรานซิส บี. แซร์ ได้ทำคุณประโยชน์ด้านการต่างประเทศให้แก่สยามเป็นอย่างมาก เป็นผู้ดำเนินการเจรจาแก้ไขสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ทำให้ประเทศสยามรอดพ้นจากการถูกเอารัดเอาเปรียบ และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการร่วมร่างเค้าโครงรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 7 ที่ทรงมุ่งหวังให้ประเทศสยามมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
และจากพระราชหัตถเลขาที่มีถึง ดร. ฟรานซิส บี. แซร์ ก็เป็นสิ่งยืนยันว่า พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ทรงให้ความสำคัญเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญการปกครองที่ถูกต้องและเหมาะสมกับประเทศสยาม ทรงต้องการให้ประชาชนได้เรียนรู้และเข้าใจถึงการปกครองในระบอบใหม่อย่างแท้จริง เพื่อให้แน่ใจว่าประเทศสยาม พร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย