APEC 2022 ทุ่มงบต้อนรับผู้นำต่างชาติ ไทยได้อะไร ? ประวัติศาสตร์มีคำตอบ

ในการประชุมเอเปค 2022 ที่จบลงไปแล้วนั้น นับได้ว่าจบลงไปอย่างน่าประทับใจ รัฐบาลจัดงานต้อนรับ ทุ่มเทงบประมาณลงไปถึง 3,283.10 ล้านบาท ซึ่งในการประชุมนี้นั้น ไม่เพียงรัฐบาลสามารถเจรจาความร่วมมือ ทำสัญญากับชาติต่าง ๆ ที่มาเข้าร่วม อาทิเช่น ซาอุดีอาระเบีย, จีน, ฝรั่งเศส, เวียดนาม, ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ได้สำเร็จเท่านั้น

การจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยให้ผู้มาเยือนได้ชื่นชมประทับใจ อีกทั้งจัดเลี้ยงอาหารไทยในรูปแบบ Fine Dining ที่ทันสมัย นำเสนอวัตถุดิบท้องถิ่นไทยระดับพรีเมียมให้ผู้นำชาติต่าง ๆ เพลิดเพลินเจริญตา เจริญใจ จนนายกรัฐมนตรีลี เชียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ถึงกับถ่ายรูปความน่าประทับใจลงเฟซบุ๊ก และนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ถึงกับเจียดเวลาเวลาไปซื้อวัตถุดิบอาหารไทยถึง ตลาด อ.ต.ก. เลยทีเดียว

หลังจบงาน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปค โพสต์ขอบคุณพี่น้องประชาชน และทีมงานทุกคนที่มีส่วนร่วมในการจัดงานต้อนรับผู้นำประเทศต่าง ๆ ที่มาเยือน พร้อมทั้งระบุว่า

“ทั้งหมดที่เราทำลงไปจะไม่สูญเปล่า แต่กลับจะสร้างมูลค่าเพิ่มที่เป็นคุณประโยชน์อย่างทวีคูณ กลับมาสู่ประเทศไทยและคนไทยในอนาคตอันใกล้ที่จะตามมาอย่างแน่นอน”



ในอดีต ทางการไทยทุ่มเทงบประมาณ จัดงานต้อนรับอาคันตุกะต่างชาติที่ไม่เคยรู้จักประเทศไทยมาก่อน ได้ประทับใจ เสียจนไม่อยากกลับบ้านมาก่อนเช่นกัน นั่นคือเหตุการณ์ คือการต้อนรับแกรนดยุกซาร์วิตซ์ (ซาเรวิตซ์) องค์มกุฎราชกุมารนิโคลาสแห่งรัสเซียใน พ.ศ. 2434 นั่นเอง

และองค์มกุฎราชกุมารนิโคลาสแห่งรัสเซียพระองค์นี้ในเวลาต่อมา ทรงสืบราชสมบัติต่อจากพระชนกของพระองค์ เป็นสมเด็จพระจักรพรรดินิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย หรือที่เรียกกันติดปากว่า ซาร์นิโคลาสที่ 2 แห่งรัสเซียนั่นเอง



ในครั้งนั้น แกรนดยุกซาร์วิตซ์ ทรงรับพระราชบัญชาของสมเด็จพระจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 3 พระบรมราชชนก ให้เสด็จประพาสรอบโลกจากฝั่งตะวันตกมาทางทิศตะวันออก เพื่อศึกษาเรียนรู้เป็นไปของโลกภายนอก ทําความเข้าใจกับความเชื่อ ศาสนา และระบอบการปกครอง เพื่อการเตรียมพระองค์ก่อนจะก้าวขึ้นไปเป็นผู้นํารัสเซีย ชาติมหาอํานาจที่ครอบครองดินแดนกว้างใหญ่ที่สุดบนพื้นโลกในเวลานั้นนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม อังกฤษเกรงว่าการที่องค์มกุฎราชกุมารนิโคลาส หรือซาเรวิตช์ เสด็จเยือนประเทศไทย อาจกระทบต่อแผนการแผ่ขยายอิทธิพลของอังกฤษเหนือประเทศไทย จึงปล่อยข่าวลือว่าในเวลานั้นมีอหิวาตกโรคในกรุงเทพ หวังจะสกัดมิให้ประเทศไทย มีความสัมพันธ์กับรัสเซีย

ถึงแม้ว่าในเวลาต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จะทรงส่งกรมสมเด็จพระยาดำรงราชานุภาพไปกราบทูลเชิญซาเรวิตช์ อีกทั้งโน้มน้าวพระทัยพระองค์ให้เสด็จมาเยือนประเทศไทยได้สำเร็จก็ตาม

แต่ในเวลานั้น คณะของซาเรวิตช์ มิได้มั่นใจในการเสด็จเยือนประเทศไทยเลยแม้แต่น้อย ดังจะเห็นได้จากบันทึกของเจ้าชายอุคทอมสกี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะผู้ติดตามซาเรวิตช์ ทรงบันทึกไว้เมื่อมาถึงประเทศไทยว่า

“เราบ่ายหน้าสู่สยามประเทศ ดินแดนแห่งนี้แทบไม่เป็นที่รู้จักสำหรับเราเลย เราน่าจะมีความรู้เกี่ยวกับแอฟริกากลางหรือชาวปาปัวนิวกินีดีกว่าด้วยซ้ำ”

อย่างไรก็ตาม ด้วยการต้อนรับของราชสำนักไทย กลับทำให้ซาเรวิตช์และคณะผู้ติดตามของพระองค์ประทับใจ เปลี่ยนอาคันตุกะแปลกหน้า ที่ไม่เคยรู้จักกับคนไทยและประเทศไทย ให้กลายเป็นสหายสนิท มิตรสุดรักได้ภายในระยะเวลาเพียง 5 วัน
ไม่เพียงการจัดการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ เปิดโอกาสให้คณะซาเรวิตช์ได้สัมผัสกับวัฒนธรรมอันดีงามแต่เพียงเท่านั้น ราชสำนักไทย ยังจัดให้ประชาชนชาวไทยกว่า 3 พันคน ได้มีโอกาสแห่ของขวัญ ทูลเกล้า ฯ ถวายแด่ซาเรวิตช์คนละชิ้นสองชิ้นอีกด้วย

การต้อนรับในครั้งนี้ ยิ่งใหญ่จนกลายเป็นสำนวนไทย “ใหญ่โตราวกับต้อนรับซาเรวิตช์” อีกทั้งยัง สร้างความประทับใจให้แก่ซาเรวิตช์และคณะอย่างยิ่ง จนเจ้าชายอุคทอมสกี้ทรงบันทึกบรรยายความรู้สึกก่อนเดินทางออกจากประเทศไทยเอาไว้ว่า

“พรุ่งนี้แล้วที่พวกเราจำจะต้องกล่าวคำอำลาจากดินแดนแห่งความสุขนี้ไป ภาพอันน่าอัศจรรย์และตื่นเต้นมากมายที่เราได้เห็นตลอดสัปดาห์นี้ จะยังคงอยู่ในความทรงจำตลอดไป การจากประเทศสยามไปในคราวนี้ เหมือนกับต้องแยกจากเพื่อนสนิทที่เรารู้จักมักคุ้นมานาน และจะทำให้พวกเราอาลัยมาก”

การต้อนรับที่ยิ่งใหญ่ ละเอียดอ่อน และอบอุ่นของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และราชสำนักไทยในครั้งนี้ ได้รับการตอบแทนอย่างใหญ่หลวงในคราวที่สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรป เพื่อแก้เกมฝรั่งเศส ที่คุกคามอธิปไตยของประเทศไทยใน พ.ศ. 2440

โดยในเวลานั้น ซาเรวิตช์ ทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าซาร์แห่งรัสเซียเรียบร้อยแล้ว และทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ อีกทั้งยังรับสั่งให้ราชสำนักรัสเซียส่งภาพนี้ไปยังหนังสือพิมพ์ที่ออกในเมืองหลวงของทุกประเทศในยุโรป ทั้งยังทรงมีพระราชหัตถเลขาอธิบายภาพด้วยพระองค์เองว่า

“สยามเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา หาใช่ประเทศล้าหลังซึ่งมหาประเทศจะอาศัยเป็นมูลเหตุเข้ายึดครองมิได้”

พระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมด้วยพระราชหัตถเลขาของพระเจ้าซาร์ที่เผยแพร่ลงในหน้าหนังสือพิมพ์ต่าง ๆ ในยุโรป สร้างความสะท้านสะเทือนไปทั่วยุโรป ทำให้ทั้งรัฐบาล และประชาชนชาวยุโรป ต่างมิมีผู้ใดกล้าดูหมิ่นดูแคลนประเทศไทยอีกต่อไป

ทำให้การเสด็จเยือนยุโรปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ สำเร็จลุล่วงลงไปได้ด้วยดี นำมาซึ่งการรักษาอธิปไตยของชาติ และผลประโยชน์อันมหาศาลแก่ปวงชนชาวไทย จนทำให้ประเทศไทย มิถูกชาติใดข่มเหงรังแกอีกต่อไป


การดำเนินนโยบายทางการทูตของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการประชุมเอเปคในครั้งนี้นั้น จะเห็นได้ว่า มิได้แตกต่างไปจากในอดีตเมื่อร้อยกว่าปีก่อนเลย ใช้ความอ่อนน้อมถ่อมตน อ่อนโยนสุภาพ แต่ชาญฉลาดละเอียดอ่อนตามแบบฉบับของคนไทย ใช้ยิ้มสยาม สร้างความเป็นมิตร หลีกเลี่ยงความขัดแย้ง เพื่อแสวงหาผลประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ และประชาชนคนไทยทุกคน

ยิ้มของคนไทย คือสุดยอด Soft Power ของคนไทย ที่ละลายใจคนทั้งโลกมาแล้ว ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน

อ้างอิง :

[1] The Structure, “เทียบผลงานระดับโลก เจ้าภาพเอเปคสองสมัย ‘กว้างใหญ่ไทยสาน’”
[2] MGR Online, “ผู้นำสิงคโปร์ถูกใจ! “อาหารไทย” สุดสร้างสรรค์ ถึงกับโพสต์รูปชมด้วยตนเอง”
[3] กรุงเทพธุรกิจ, “นายกฯ สิงคโปร์ ลี เซียนลุง โพสต์คลิปวิดีโอเพลงไทย ประทับใจเอเปค 2022”
[4] TNN Online, “ตลาด อ.ต.ก. แตก! กมลา แฮร์ริส แวะซื้อเครื่องแกง และตะไคร้ก่อนเดินทางกลับ”
[5] ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี – PMOC, วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เวลา 17:03 น.
[6] ศิลปวัฒนธรรม, “รัชกาลที่ 5 ทรงส่งกรมดำรงฯ ทรงราชการลับ หลังอังกฤษปล่อยข่าวดิสเครดิตไทย”
[7] Coloured By Sebastian Peet แฟนเพจ, 17 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 17:43 น.
[8] MGR Online, “ทูตรัสเซียเขียนรายงาน.. ร.๕ จัดต้อนรับมกุฎราชกุมารสุดยิ่งใหญ่! มิตรภาพอันจริงใจที่ต้องจำไม่รู้ลืม!!”

TOP
y

Emet nisl suscipit adipiscing bibendum. Amet cursus sit amet dictum. Vel risus commodo viverra maecenas.

r

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า