เปิดประวัติศาสตร์ ‘ราเมน’ เมนูอาหารขึ้นชื่อของญี่ปุ่น ที่มีต้นกำเนิดมาจากจีน

ราเมน คืออาหารเส้นแบบญี่ปุ่น เป็นเส้นแป้งสีเหลืองนวล เหนียวนุ่ม ใส่ในน้ำซุปตามแบบฉบับของญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ที่แม้ในเมืองไทย ก็มีร้านราเมนญี่ปุ่นให้เลือกรับประทานอยู่มากมาย

อย่างไรก็ตาม ต้นฉบับของราเมนนั้น มาจากอาหารจีนชื่อ “ลาเมี่ยน” มีหน้าตาและรูปแบบคล้ายคลึงกันกับราเมน

ตำนานเล่าว่า ใน ค.ศ. 1664 จู้ จี้หยู บัณฑิตชาวจีน ลี้ภัยทางการเมืองจากการรุกรานของชาวแมนจู ราชวงศ์ชิงมาอาศัยอยู่ในญี่ปุ่น เป็นที่ปรึกษาให้แก่โตกุกาวะ มิตทสึคุนิ ไดเมียวแห่งแคว้นมิโตะ หลานชายของโชกุนโตกุกาวะ อิเอะยาสึ และจี้หยูปรุงลาเมี่ยนให้มิตทสึคุนิได้รับประทานในช่วงเวลาที่ทำงานให้ไดเมียวผู้นี้

อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์ของราเมนที่นักวิชาการเชื่อถือมากกว่า คือการที่ร้านอาหารในโยโกฮาม่า รับเอาพ่อครัวชาวจีนเข้ามาทำงาน และพ่อครัวเหล่านี้ปรุงลาเมี่ยนขายในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 – ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 แต่คนญี่ปุ่นฟังเพี้ยนจนกลายเป็นคำ “ราเมน”

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศญี่ปุ่นขาดแคลนข้าวสารอย่างหนัก เนื่องจากสงครามได้ทำลายกำลังการผลิตข้าวของญี่ปุ่น อีกทั้งญี่ปุ่นในช่วงก่อนสงคราม พึ่งพาการนำเข้าข้าวสารจากประเทศอาณานิคมของตนเอง จนเมื่อแพ้สงคราม ญี่ปุ่นไม่สามารถนำเข้าอาหารจากอดีตอาณานิคมของตนเองได้อีกต่อไป

อเมริกา ซึ่งในเวลานั้นเข้ายึดครองญี่ปุ่น แก้ไขปัญหาวิกฤติการณ์ขาดแคลนอาหารด้วยการนำเข้าแป้งสาลีราคาถูกเพื่อผลิตขนมปังแทนที่ข้าวสวย แต่ถึงกระนั้น ขนมปังไม่เป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่น จึงมีการนำแป้งสาลีมาผลิตเป็นราเมนเพื่อทดแทน

นอกจากนี้ ซุปตามแบบฉบับของลาเมี่ยนดั้งเดิมของจีน ที่ข้นมันนั้น ไม่ถูกใจชาวญี่ปุ่น จึงมีการปรับเปลี่ยนสูตร หันมาใช้น้ำซุปจากเต้าเจี้ยวมิโซะ ซึ่งเป็นที่คุ้นเคยของชาวญี่ปุ่นมากกว่าแทน จนทำให้ราเมนกลายเป็นอาหารยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นนับแต่นั้นมา

ภายใต้การฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจและสังคม ชาวญี่ปุ่นเริ่มมีศักยภาพในการผลิตและสรรหาวัตถุดิบมากขึ้น เริ่มพัฒนาสูตรน้ำซุปราเมน ให้เข้ากับวัตถุดิบท้องถิ่น จนเกิดเป็นราเมนสูตรต่าง ๆ มากมาย เช่น ซัปโปโร ราเมน เมืองหลวงของฮอกไกโด รังสรรค์น้ำซุปสีขาวขุ่น เหมือนหิมะของเมือง ใส่อาหารทะเล ซึ่งเป็นวัตถุดิบขึ้นชื่อของฮอกไกโดเช่น ปลาหมึก, หอย และปูลงไป

นอกจากนี้ นายโมโมฟุกุ อันโด ผู้ก่อตั้งบริษัท นิชชิน ยังคิดค้น “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” ได้สำเร็จ และวางจำหน่ายไปทั่วโลก ยิ่งทำให้ชื่อเสียงของราเมน เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอีกด้วย

จะเห็นได้ว่าราเมนนั้น เป็นอาหารญี่ปุ่นที่ทุกคนยอมรับว่าต้นฉบับนั้นมาจากประเทศจีน แต่ทุกวันนี้ ใคร ๆ ต่างก็ยอมรับว่า ราเมนนั้น เป็นอาหารญี่ปุ่น เพราะชาวญี่ปุ่น คือผู้รังสรรค์อาหารเส้นชนิดนี้ ให้แตกต่างและโดดเด่น ตามไปจากลาเมี่ยนของจีน

ประเทศไทยของเราเองก็เช่นกัน ผลผลิตทางวัฒนธรรมของชาวไทยเรา มีไม่น้อยที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชนชาติอื่น อาทิเช่น โขน และมวยไทย

ถึงแม้ว่าแต่เดิม เราจะได้รับอิทธิพลมาจากแขมร์ เนื่องด้วยจักรวรรดิแขมร์ เคยยิ่งใหญ่และรุ่งเรืองมาก่อนไทย แต่ตลอดเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมา เป็นบรรพบุรุษชาวไทยของเรา รังสรรค์พัฒนาทั้งโขนและมวยไทย ในมีเอกลักษณ์เฉพาะ และโดดเด่นในแบบเรา

ดังนั้น ในวันนี้ ถึงแม้ว่ายูเนสโกจะจดทะเบียน “มวยโบกาตอ” เป็นมรดกที่จับต้องไม่ได้ ตามการยื่นขอของกัมพูชา พร้อมอ้างว่า เป็นต้นแบบของมวยไทยและมวยลาว

แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องมานั่งน้อยใจอะไร เพราะไม่ว่าบรรพบุรุษของเราจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากใคร แต่ยังเป็นบรรพบุรุษของเรา ที่สร้างสรรค์วัฒนธรรมมวยไทย ให้เป็นมรดกของชาติ ให้พวกเราลูกหลานชาวไทย ได้ยืดอก พูดออกได้เต็มปากว่า “มวยไทยเป็นของพวกเรา และมีชื่อเสียงได้เพราะพวกเราชาวไทยทุกคน”

TOP
y

Emet nisl suscipit adipiscing bibendum. Amet cursus sit amet dictum. Vel risus commodo viverra maecenas.

r

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า