‘เงี้ยว’ ไม่ใช่คนล้านลา ไม่ใช่คนพื้นเมือง และไม่ใช่สยาม ความจริงของกบฏเงี้ยวเมืองแพร่ที่รัฐต้องปราบ!

กบฏเงี้ยวเมืองแพร่” เป็นหนึ่งในเหตุการณ์กบฏสมัยรัชกาลที่ 5 ที่มีนักวิชาการบางคนพยายามบิดเบือนว่า เป็นการต่อสู้ระหว่างประชาชนกับอำนาจรัฐ ที่มีสาเหตุมาจากการกดขี่ของรัฐบาลสยาม จากการรวบอำนาจเบ็ดของรัชกาลที่ 5

ซึ่งเรื่องนี้เป็นการตัดสินด้วย “อคติ” ของคนที่พยายามบิดเบือนประวัติศาสตร์

เพราะจากหลักฐานข้อเท็จจริง กบฏเงี้ยวเมืองแพร่ เกิดจากการลุกฮือของชนกลุ่มน้อยนอกประเทศที่เข้ามาค้าขายตามชายแดน ซึ่งคนพวกนี้ไม่ใช่คนสยามด้วยซ้ำ แถมยังได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหลวงเมืองแพร่รวมถึงเจ้าหลวงหลายเมืองในภาคเหนืออีกด้วย เหตุเพราะบรรดาเจ้าหลวงเหล่านี้สูญเสียผลประโยชน์แต่เดิมที่เคยได้รับ จากการปฏิรูประบบภาษีแบบใหม่ของทางกรุงเทพฯ

ซึ่งนี่ก็คือโมเดลเดียวกับเหตุการณ์กบฏหลายๆ พื้นที่ในช่วงปฏิรูปประเทศอย่างเช่นกบฏผีบุญอีสาน หรือกบฏในอีกหลายๆ หัวเมือง ซึ่งการปฏิรูปพลิกฟื้นบ้านเมืองในสมัยนั้นคือการยกระดับสยามสู่ความเจริญ มีการปฏิรูประบบต่างๆ ไปสู่ความเป็นสากล แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้บรรดาขุนนางท้องถิ่นตามหัวเมืองต่างๆ เสียผลประโยชน์ที่พวกเขาเคยได้มาจากการขูดรีดประชาชน ก็เลยเกิดการสนับสนุนพวกกลุ่มชาติพันธุ์ที่หากินอยู่ตามแนวชายแดนให้ลุกขึ้นก่อความรุนแรงเพื่อล้มล้างระบบภาษีแบบใหม่

การก่อกบฏของโจรเงี้ยวไม่เพียงส่งผลเฉพาะในท้องถิ่นเท่านั้น แต่อาจส่งผลเสียหายในระดับประเทศ นั่นคือ การเปิดโอกาสให้อังกฤษเจ้าอาณานิคมของพม่าในขณะนั้นเข้ามาแทรกแซงและมีอิทธิพลเหนือสยามได้ ด้วยเหตุนี้ทางรัฐบาลสยามจึงจำเป็นต้องส่งกำลังเข้าจัดการให้เด็ดขาด

ดังนั้น การปราบปรามกบฏเงี้ยวเมืองแพร่จึงไม่ใช่การใช้อำนาจรัฐกดขี่ทำร้ายประชาชน และไม่ใช่การรวบอำนาจเบ็ดเสร็จของรัชกาลที่ 5 ตามที่มีนักวิชาการบางคนพยายามใช้อคติเพื่อบิดเบือนความจริง

เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังของเหตุการณ์ “กบฏเงี้ยวเมืองแพร่” เป็นอย่างไร ฤๅ นำมาให้รับชมแบบละเอียดยิบแล้วในคลิปวิดีโอนี้

TOP
y

Emet nisl suscipit adipiscing bibendum. Amet cursus sit amet dictum. Vel risus commodo viverra maecenas.

r