‘ม.112 ไม่ได้ทำผิดก็มีสิทธิ์ติดคุกได้’ วาทกรรมของสื่อเสี้ยมที่ใช้ ‘อคติ’ บิดเบือน ‘ข้อเท็จจริง’

ท่ามกลางสถานการณ์การเรียกร้องทางการเมืองที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ มีเพจบางเพจพยายามเอากระแสต่างๆ มา “โหน” เพื่อหาเรตติ้งเข้าช่องตัวเอง พ่วงด้วยการใส่ข้อมูลเท็จ บิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ม.112 เพื่อหวังใช้เรียกอารมณ์ความรู้สึกของคนที่เขามีธงอยู่แล้วในใจ

ซึ่งข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เพจนี้พยายามบิดเบือน ทาง ฤๅ ก็ได้เคยอธิบายไปหลายครั้งแล้วว่า คำว่า “ม.112 แม้ไม่ได้ทำความผิดก็มีสิทธิ์ติดคุกได้” นั้น ไม่เป็นความจริง

การที่จะแจ้งดำเนินคดี ม.112 ได้นั้นจะต้องชัดเจนว่ามี “พฤติการณ์แห่งการกระทำ” เสียก่อน นั่นคือการกระทำที่เป็นการเข้าข่ายดูหมิ่น หมิ่นประมาท แสดงความอาฆาตมาดร้าย ถ้าไม่มีพฤติการณ์เหล่านี้แล้วจะเอาอะไรไปร้องทุกข์กล่าวโทษ

ส่วนพฤติการณ์แบบไหนที่เข้าข่ายองค์ประกอบความผิด ก็ให้ลองไปดูรายละเอียดของคดี ม.112 ที่ผ่านมาว่าผู้กระทำความผิดมีพฤติการณ์อย่างไรบ้าง ไม่ใช่เอาแค่พาดหัวข่าวมา แล้วมาอ้างว่า แค่ใส่ชุดไทยก็ผิด, ขายปฏิทินเป็ดเหลืองก็ผิด หรือใส่ครอปท็อปเดินสยามพารากอนก็ผิด

ที่สำคัญ คดี ม.112 ไม่ใช่ว่าพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนส่งอัยการได้เลย แต่จะมีคณะกรรมการที่เป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่คอยกรองอีกชั้นหนึ่งก่อน จึงจะส่งไปให้อัยการสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลต่อไป และแน่นอนว่าในขั้นต้นหากไม่มีหลักฐานเพียงพอ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็อาจใช้ดุลยพินิจไม่ส่งฟ้องคดีก็ได้เช่นกัน

ดังนั้น การที่เพจๆ นี้อ้างว่า ตำรวจส่งฟ้องคดี ม.112 ทุกคดีเพราะทนแรงกดดันของสังคมไม่ไหว จึงเป็นเรื่อง “โกหก”

ความแตกแยก ความสูญเสียของบ้านเมืองในประวัติศาสตร์หลายๆ ครั้งที่ผ่านมา เราก็เห็นกันแล้วว่าส่วนหนึ่งก็มาจากการปั่นเรื่องเท็จของสื่อเสี้ยมพวกนี้นี่แหละ ที่คอยเกาะกิน ใช้กระแสดราม่าต่างๆ มาบิดเบือนสร้างประโยชน์ให้ตัวเอง โดยไม่สนใจผลเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับสังคมในภายหลังเลย

แล้วเราจะให้ประวัติศาสตร์บาดแผลเหล่านั้นหมุนย้ำซ้ำรอยเดิมหรือ ?