ไม่อยากเป็น ‘ทาส’ ใคร แต่อยากให้ไทยเป็น ‘เมืองขึ้น’

ทุกวันนี้มีคนพยายามบิดเบือนประวัติศาสตร์ และนำมาปลุกปั่นให้เยาวชนคนรุ่นใหม่คิดว่า การที่ไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร เป็นสาเหตุทำให้ประเทศล้าหลังมาถึงทุกวันนี้ คนไทยพูดภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ ระบบราชการก็ไม่ดี แบบนี้สู้เป็นประเทศอาณานิคมดีกว่า บางคนถึงขนาดเทิดทูนบูชาฝรั่ง อยากให้มายึดบ้านยึดเมืองตัวเองกันเลยทีเดียว

ฟังดูก็ย้อนแย้ง ที่บอกว่าไม่อยากเป็นทาสใคร แต่กลับอยากให้ไทยเป็นเมืองขึ้น

ถ้าเราย้อนศึกษาประวัติศาสตร์ดูจะพบว่า จริงๆ แล้วจุดประสงค์ของพวกจักรวรรดินิยมที่เข้ามาล่าอาณานิคมในสมัยก่อน ล้วนแต่เข้ามากอบโกยเอาทรัพยากรกลับไปประเทศแม่ เอาคนไปเป็นทาส เอาทุกสิ่งทุกอย่างไปเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น เขาไม่เสียเวลามาพัฒนาความเจริญ หรือมานั่งสอนภาษาให้ชนชาติที่เป็นเมืองขึ้นหรอก

และปัจจัยของความเจริญ ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตกเป็นเมืองขึ้น

อย่างสิงคโปร์ที่เขาเจริญขึ้นมา ก็เพราะปัจจัยสำคัญคือสภาพภูมิศาสตร์ ขนาดของบ้านเมือง และความที่เป็นเมืองท่า ทุกอย่างเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่เอื้อให้เกิดการพัฒนา อย่าเหมาเอาว่าทุกประเทศที่เป็นเมืองขึ้นจะต้องเจริญเพราะชาติตะวันตกเข้ามายึดครอง

กรณีการบิดเบือนประวัติศาสตร์ที่ว่า ในหลวง ร.5 ทรงปฏิรูปประเทศ เป็นการรวบอำนาจเพื่อประโยชน์ของพระองค์เอง ก็ไม่เป็นความจริง

การปฏิรูปบ้านเมืองของท่าน ล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง อย่างการเข้าร่วมอนุสัญญาเจนีวาในสมัยนั้น ก็เพื่อเป็นหลักประกันว่า ประชาชนของท่านจะต้องปลอดภัยถ้าต้องเกิดสงครามขึ้น

และนี่ไม่ใช่การทำเพื่อประชาชนหรือ?

ทั้งหมดนี้ไม่ได้พูดลอยๆ นะครับ แต่มีเอกสารอ้างอิงที่เป็นหลักฐานยืนยันเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ก็อยู่ที่ว่าใครจะใช้ประวัติศาสตร์เพื่อศึกษาหาความจริง หรือนำมาบิดเบือนเพื่อใช้ปลุกปั่นมวลชน

ลองดูคลิปนี้ครับ แล้วจะเข้าใจว่า ประเทศจะเจริญก้าวหน้าได้นั้น ไม่เกี่ยวกับการที่เคยเป็นเอกราชหรือไม่เป็นเอกราช แต่เป็นเพราะคนในชาตินั้นๆ เขาพัฒนาตัวเอง ซึ่งพฤติกรรมและความคิดในปัจจุบันของคนในสังคมต่างหาก ที่จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของชาติต่อไป