
โครงการหลวง มีการจดทะเบียนตามกฎหมาย ไม่ใช่ความลับ และ “ตรวจสอบ” ได้
มีผู้ไม่หวังดีพยายามโจมตีกล่าวหา โครงการหลวง โครงการพระราชดำริต่าง ๆ ว่าเป็นส่วนงบประมาณที่ฟุ่มเฟือย อีกทั้งยังไม่โปร่งใส ไม่สามารถเปิดเผยตรวจสอบได้
ทั้ง ๆ ที่กลุ่มคนเหล่านั้นไม่เคยรู้ข้อมูลที่ถูกต้องในทางกฎหมายเลย หนำซ้ำยังนำข้อมูลผิด ๆ ส่งต่อกันไปในโลกโซเชียลมีเดีย จนกลายเป็นกระแสที่พยายามด้อยค่า โครงการพระราชดำริและพาดพิงไปถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างเสีย ๆ หาย ๆ
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว โครงการหลวงมีการจดทะเบียนตามกฎหมาย มีผู้ดูแลและจัดการทรัพย์สินอย่างถูกต้อง มีวัตถุประสงค์เพื่อการกุศลสาธารณะ และที่สำคัญคือสามารถตรวจสอบได้ ไม่ใช่สิ่งที่เป็นความลับแต่อย่างใดเลย
โครงการหลวง ตรวจสอบได้
โครงการหลวง มีชื่อเต็มว่า มูลนิธิโครงการหลวง มีสถานะเป็นนิติบุคคล ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามอำนาจของกฎหมาย
ส่วน คำว่า “มูลนิธิ” ตามมาตรา 110 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หมายถึง ทรัพย์สินที่จัดสรรไว้โดยเฉพาะสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการกุศลสาธารณะ การศาสนา ศิลปะ วิทยาศาสตร์ วรรณคดี การศึกษา หรือเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างอื่น โดยมิได้มุ่งหาผลประโยชน์มาแบ่งปันกัน และได้จดทะเบียนตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้
การจัดการทรัพย์สินของมูลนิธิ ต้องมิใช่เป็นการหาผลประโยชน์เพื่อบุคคลใด นอกจากเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธินั้นเอง
ตามมาตรา 111 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้บัญญัติต่อไปว่า มูลนิธิต้องมีข้อบังคับและต้องมีคณะกรรมการของมูลนิธิ ประกอบด้วยบุคคลอย่างน้อยสามคน เป็นผู้ดำเนินกิจการของมูลนิธิตามกฎหมายและข้อบังคับของมูลนิธิ
ต่อมาในมาตรา 112 (2) (4) (5) (6) กำหนดให้ข้อบังคับของมูลนิธิ ต้องมีวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ ทรัพย์สินของมูลนิธิขณะจัดตั้ง และข้อกำหนดเกี่ยวกับคณะกรรมการของมูลนิธิ ได้แก่ จำนวนกรรมการ การตั้งกรรมการ วาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการ การพ้นจากตำแหน่งของกรรมการ และการประชุมของคณะกรรมการ ตลอดจนข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดการมูลนิธิ การจัดการทรัพย์สินและบัญชีของมูลนิธิ
ด้วยข้อจำกัดของกฎหมายข้างต้น การดำเนินกิจการของมูลนิธินั้น “ไม่สามารถเป็นไปตามอำเภอใจ” แต่จะต้องเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ ที่มูลนิธิได้ยื่นจดทะเบียนเอาไว้ต่อนายทะเบียนเท่านั้น การจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับ การแต่งตั้งกรรมการมูลนิธิ จะต้องมีการรายงานต่อนายทะเบียน ผ่านเอกสารมติที่ประชุมคณะกรรมการด้วย
เนื่องจากมูลนิธิ เป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นมาเพื่อการกุศลสาธารณะ การศาสนา ศิลปะ วิทยาศาสตร์ วรรณคดี การศึกษา หรือเพื่อสาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยสภาพความเป็นนิติบุคคลของมูลนิธิ “ย่อมเปิดเผยได้เป็นสาธารณะอยู่แล้ว” และมูลนิธิมีผู้ดูแลจัดการทรัพย์สินอย่างถูกต้อง มีการทำบัญชีรายรับรายจ่าย ตามที่กฎหมายกำหนด
กรณีข้างต้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 135 จึงบัญญัติเอาไว้ว่า ผู้ใดประสงค์จะขอตรวจเอกสารเกี่ยวกับมูลนิธิที่นายทะเบียนเก็บรักษาไว้ หรือจะขอให้นายทะเบียนคัดสำเนาเอกสารดังกล่าวพร้อมด้วยคำรับรองว่าถูกต้อง ก็ให้ยื่นคำขอต่อนายทะเบียนได้
จะเห็นได้ว่า การดำเนินกิจการของมูลนิธิโครงการหลวง โครงการพระราชดำริต่าง ๆ มีการจดทะเบียนตามข้อบังคับกฎหมาย มีผู้ดูแลและจัดการทรัพย์สินอย่างถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้โดยง่าย ไม่ใช่โครงการที่เป็นความลับ ตามที่มีผู้กล่าวหาแต่อย่างใดเลย
ที่มา :
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 109 ตอนที่ 62, 12 พฤษภาคม 2535 ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ให้อำนาจจัดตั้ง “มูลนิธิโครงการหลวง” เป็นนิติบุคคล