เรื่องน่ารู้ของ สมเด็จฯ เจ้าฟ้านิภานภดล ‘สมเด็จหญิงน้อย’ ลูกรักของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล วิมลประภาวดี กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี ทรงเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 กับ พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา

โดยในหลวงรัชกาลที่ 5 ตรัสเรียกพระองค์ว่า “หญิงเล็กนิภา” และชาววังเรียกพระองค์ว่า “สมเด็จหญิงน้อย”

“สมเด็จหญิงน้อย” ทรงมีพระเชษฐา และพระเชษฐภคินี ที่ประสูติร่วมพระมารดาอีก 3 พระองค์ โดยทั้งหมดมีพระนามที่คล้องจองกัน ได้แก่ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร, สมเด็จฯ เจ้าฟ้านภาจรจำรัสศรี, สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามาลินีนภดารา และสมเด็จฯ เจ้าฟ้านิภานภดล

สมเด็จฯ เจ้าฟ้านิภานภดล ทรงเป็นพระราชธิดาที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดปรานมาก โดยเมื่อครั้งที่สมเด็จหญิงน้อยเสด็จประพาสชวาขณะพระชันษาเพิ่งจะ 13 ปี โดยในขณะนั้นชวายังเป็นอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์ และแม้ว่าพระองค์เพิ่งจะเสด็จออกต่างประเทศเป็นครั้งแรก แต่ก็ทรงช่างพูดช่างคุย ฉลาดหลักแหลม และทรงเข้ากับทุกคนได้ดี ไม่ว่าจะเป็นแขก หรือฝรั่ง

ด้วยพระอุปนิสัยนี้เอง สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้กล่าวถึงพระองค์ไว้ในคำนิยามพระนิพนธ์เรื่อง เที่ยวเมืองพม่า ว่า “น่ารักน่าชม สมกับเป็นเจ้าฟ้า” พร้อมทั้งทรงสรรเสริญว่า“ทรงพระคุณอย่างเป็นขัติยนารีแท้ทุกสถาน ทรงพิสูจน์ให้ปรากฏแล้ว ทั้งในเวลาที่มีความสุข และในเวลาได้รับความทุกข์ยาก สมควรกับที่ทรงสร้อยพระนามกรมว่า ขัติยนารี เป็นอนุสรณ์อยู่กับพระนามตลอดไป”

สมเด็จเจ้าฟ้าฯ นิภานภดล ทรงอุสาหะศึกษาวิชาความรู้ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ จนกระทั่งทรงรอบรู้ทั้งเรื่องวิชาการและงานราชกิจต่างๆ จนได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยเป็นอย่างสูงให้รับราชการในตำแหน่งราชเลขาธิการฝ่ายใน

นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเป็นพระราชธิดาที่ในหลวง ร.5 พระราชทานพระเมตตามากพระองค์หนึ่ง ดังเช่นเมื่อครั้งสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จประพาสยุโรปเมื่อปี พ.ศ. 2450 ทรงมีพระราชหัตถเลขาพระราชทานมาถึงสมเด็จเจ้าฟ้าฯ นิภานภดล มิได้ขาด รวมแล้วกว่า 43 ฉบับ โดยในพระราชหัตถเลขานั้นทรงเล่าถึงเมืองต่างๆ ในยุโรปที่ได้เสด็จประพาส สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนแสดงถึงความรักความห่วงใยของพ่อที่ทรงมีต่อลูกได้ประจักษ์ชัดแจ้ง ซึ่งพระราชหัตเลขาเหล่านั้นสมเด็จเจ้าฟ้าฯ นิภานภดล ได้นำมารวมรวบเป็นหนังสือพระราชนิพนธ์ “ไกลบ้าน” ในเวลาต่อมา

สำหรับพระราชกรณียกิจของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ นิภานภดล พระองค์ทรงร่วมกับสมเด็จฯ เจ้าฟ้ามาลินีนภดารา พระเชษฐภคินี บริจาคทุนทรัพย์สร้างเครื่องใช้สำหรับ “ตึกเยาวมาลย์อุทิศ” โรงเรียนเทพศิรินทร์ นอกจากนี้ เนื่องในโอกาสที่พระองค์ทรงเจริญพระชันษาได้ 28 ปี พระองค์ได้ทรงสร้าง “ตึกนิภานภดล” ถวายแก่วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร สำหรับเป็นโรงเรียนสอนปริยัติธรรม เพื่ออุทิศพระกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 5 และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี

เมื่อล่วงเข้าสู่สมัยรัชกาลที่ 6 สมเด็จเจ้าฟ้าฯ นิภานภดล ได้ตามเสด็จพระวิมาดาเธอฯ พร้อมด้วยสมเด็จฯ เจ้าฟ้ามาลินีนภดารา เข้ามาประทับในสวนสุนันทา ณ ตำหนักขนาดใหญ่ โดยพระวิมาดาเธอฯ ประทับพร้อมกับสมเด็จเจ้าฟ้าฯ นิภานภดล ส่วนสมเด็จฯ เจ้าฟ้ามาลินีนภดารา ประทับในตำหนักส่วนพระองค์ ถัดออกไปทางด้านทิศตะวันออก

ขณะประทับอยู่ที่สวนสุนันทา ด้วยความสนพระทัยและทรงฝักใฝ่ในเรื่องการศึกษา สมเด็จเจ้าฟ้าฯ นิภานภดล ทรงให้จัดตั้งโรงเรียนขึ้นภายในบริเวณที่ประทับ เรียกว่า “โรงเรียนนิภาคาร” เพื่อให้เป็นที่ศึกษาเล่าเรียนของพระญาติและบรรดาข้าหลวงในพระองค์ มีการจ้างทั้งครูชาวไทยและชาวต่างชาติมาทำการสอน โดยนักเรียนทุกคนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย มีอาหารรับประทานทุกมื้อ และมีอุปกรณ์การเรียนครบถ้วนเหมือนกับโรงเรียนทั่วไป อีกทั้งเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วก็สามารถไปสอบเทียบที่โรงเรียนสายปัญญาได้ และหากใครสอบได้พระองค์ก็จะประทานรางวัลให้ทุกครั้ง

เรื่องการศึกษานี้ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ นิภานภดล ทรงใส่พระทัยมากเป็นพิเศษ ถึงกับเคยมีดำริที่จะตั้งเป็นโรงเรียนหลวงให้ถูกต้องตามกฎหมาย และรับสั่งให้พระองค์เจ้าธานีนิวัต กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร เสนาบดีกระทรวงธรรมการในขณะนั้น เข้าเฝ้าถวายคำแนะนำการดำเนินการ

แต่เป็นที่น่าเสียดาย ที่เกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครองขึ้นเสียก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างจึงต้องยุติไป และโรงเรียนนิภาคารก็ถูกยุบเลิกไปโดยปริยาย

ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 สมเด็จเจ้าฟ้าฯ นิภานภดล ได้เสด็จออกจากสวนสุนันทาย้ายไปประทับที่พระตำหนักเขาน้อย จังหวัดสงขลา ส่วนพระราชวงศ์พระองค์อื่นๆ ต่างล้วนแต่อยู่ในฐานะตกต่ำ แต่ละพระองค์ต้องทรงประคองตัว และส่วนมากได้เสด็จหลบภัยการเมืองจากคณะราษฎรไปประทับนอกประเทศ

สมเด็จเจ้าฟ้าฯ นิภานภดล ในขณะนั้น ถือได้ว่าพระองค์ทรงอยู่เพียงลำพังพระองค์เดียว เนื่องจากพระมารดา พระเชษฐา และพระเชษฐภคินีต่างสิ้นพระชนม์ลงหมด เรียกได้ว่าพระองค์ทรง “โดดเดี่ยว” และ “ว้าเหว่” ก็คงจะไม่ผิดนัก

ประกอบกับข่าวลือต่างๆ รวมทั้งการที่ทรงรับข่าวสารจากต่างประเทศเป็นประจำ ส่งผลให้พระองค์เกิดความหวาดระแวงและความไม่มั่นใจในความปลอดภัย โดยบรรดาข้าหลวงในวังต่างเล่าเหมือนๆ กันว่า “… สมเด็จหญิงน้อยทรงหวาดกลัว เพราะเจ้านายพี่น้องส่วนมาก ท่านมีญาติบ้างมีพี่น้องหรือเจ้าจอมมารดาเป็นที่พึ่งอยู่นอกวัง แต่ท่านไม่มีใคร …”

ในที่สุด สมเด็จเจ้าฟ้าฯ นิภานภดล จึงทรงตัดสินพระทัย ตามเสด็จสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต พระเชษฐาต่างพระมารดา ไปประทับที่เมืองบันดุง ประเทศอินโดนีเซีย ณ พระตำหนักดาหาปาตี

โดยก่อนเสด็จไปประทับที่เมืองบันดุง ด้วยความห่วงใยข้าราชบริพาร ทรงให้คนที่มีบิดามารดาหรือญาติพี่น้องได้กลับไปอยู่ที่บ้าน ส่วนคนที่ไม่มีที่ไป ทรงให้สร้างบ้านเรือนอยู่ในที่ดิน ตำบลสวนมะลิ (แถวโรงภาพยนตร์เฉลิมเขตร์ฯ) ในพระอนุเคราะห์ และประทานทรัพย์สินให้ตามสมควร

ขณะประทับอยู่ที่เมืองบันดุง สมเด็จเจ้าฟ้าฯ นิภานภดล ทรงดำเนินพระจริยวัตรอย่างเรียบง่ายเยี่ยงสามัญชน และถึงแม้เสด็จประทับยังต่างประเทศ แต่ที่บันดุงก็ยังคงอุ่นหนาฝาคั่งด้วยพระประยูรญาติเสด็จมาเยี่ยมเยียนมิได้ขาด และสมเด็จหญิงน้อยก็ทรงมีรับสั่งกลับมาทางกรุงเทพฯ อยู่เสมอๆ

สมเด็จเจ้าฟ้าฯ นิภานภดล ประทับอยู่ที่เมืองบันดุงจนถึงบั้นปลายพระชนมชีพ ทรงประชวรด้วยโรคพระวักกะ (ไต) พิการอยู่เป็นเวลานาน กระทั้งสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2479 ขณะพระชันษา 49 ปี โดยหลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน รัฐบาลได้อนุมัติให้อัญเชิญพระศพลงเรือที่ปัตตาเวีย เดินทางไปสิงคโปร์ เพื่อขึ้นเรือภาณุรังษีที่รัฐบาลจัดไว้ให้ จากนั้นจึงเดินทางต่อโดยรถไฟจนถึงกรุงเทพฯ และมีพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพเมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2480 ณ พระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร

TOP
y

Emet nisl suscipit adipiscing bibendum. Amet cursus sit amet dictum. Vel risus commodo viverra maecenas.

r

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า