
เราเชื่อว่ากระดูกสันหลังและความเป็นนักวิชาการของ อาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล จะกลับมาในวันหนึ่ง
เรียน อาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
เราผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับท่าทีและการเสดงออกทางวิชาการของอาจารย์มาหลายครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน อาจารย์สมศักดิ์ฯ ไม่ได้แสดงความแหลมคมทางปัญญาออกมาในระดับที่เราคาดหวังเลย
จากโพสต์ของอาจารย์เมื่อวันที่ 8 มีนาคม Facebook Post, Somsak Jeamteerasakul เราเห็นชัดว่าอาจารย์สมศักดิ์ฯ มีการใช้ตรรกะที่ผิดเพี้ยนไปจากที่ควรจะเป็นอยู่มาก ซึ่งเราจะขออธิบายเป็นข้อๆ ดังนี้
ประการที่ 1 อาจารย์สมศักดิ์ฯ พูดถึงประเด็น “คำพูดของในหลวงที่ถูกจดทะเบียนลิขสิทธิ์” ไม่น่าเชื่อว่าโพสต์ของอาจารย์จะเป็นคำกล่าวหาที่แสนไร้เดียงสาของผู้ที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นครูบาอาจารย์ ที่พูดออกมาโดยไม่ได้ใช้ความคิดไตร่ตรองเสียก่อน
จะเห็นได้ว่าการจับเอาข้อกฎหมายเรื่องลิขสิทธิ์มาโยงเข้ากับความผิดมาตรา 112 คงจะมีแต่ผู้ที่ไม่รู้ประสาเท่านั้นที่ทำกัน เพราะลิขสิทธิ์ กับ มาตรา 112 นั้น เป็นคนละเรื่องกัน และไม่มีทางที่ถ้อยคำธรรมดาสามัญจะถูกรับรองความชอบธรรมตามกฎหมายลิขสิทธิ์ไปได้ “คำพูด” หรือ “แนวความคิดคน” เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน หากไม่ได้เรียบเรียงหรือสร้างสรรค์ออกมาให้เข้าองค์ประกอบของกฎหมายลิขสิทธิ์ ก็จะจดลิขสิทธิ์ไม่ได้
ประการที่ 2 อาจารย์สมศักดิ์อยู่กับมาตรา 112 มาหลายสิบปี มีหรือที่จะไม่รู้ว่า พฤติการณ์ดูหมิ่นที่จะเข้าองค์ประกอบทางกฎหมายอาญานั้นเป็นอย่างไร ลำพังเพียงแค่การกล่าวถ้อยคำธรรมดา ไม่อาจเกิดเป็นความผิดขึ้นมาได้ แต่การจะเป็นความผิดทางอาญาฐานใดหรือไม่ จะต้องพิจารณาจาก “เจตนา” เป็นสำคัญ และเจตนาอย่างไร ก็จะแสดงออกมาแบบนั้น ซึ่งในทางข้อเท็จจริงนั้นพิสูจน์ได้ไม่ยาก เพราะหากมีพฤติการณ์แวดล้อมที่ชี้ชัดการกระทำว่าเป็นการเสียดสีลดทอนคุณค่าแล้ว การดูถูกเหยียดหยาม สบประมาท หรือทำให้อับอาย ไม่ว่าจะด้วยการพูด ทำ หรือแสดงท่าทางอย่างไร ก็ล้วนแล้วแต่เป็นการดูหมิ่นทั้งสิ้น
ประการที่ 3 หากอาจารย์สมศักดิ์ฯ จงใจจะใช้ประเด็นลิขสิทธิ์มาเสียดสีมาตรา 112 (ซึ่งเราเห็นว่าอาจารย์สมศักดิ์น่าจะตั้งใจให้เป็นแบบนี้) การเสียดสีของอาจารย์นั้นเป็นการเสียดสีที่ไม่มีจุดเกาะเกี่ยว ไม่มีพื้นที่ทับซ้อนของประเด็น ไม่แหลมคม และไร้รสนิยมเหลือเกิน
ประการที่ 4 ในขณะที่อาจารย์สมศักดิ์ฯ ยังคงยั่วยุสร้างกระแสอยู่นอกประเทศ ปลุกเร้าให้เด็กๆ คนแล้วคนเล่า ลงมือกระทำผิดกฎหมายจนถูกจับกุมดำเนินคดี เหมือนกับหมากทางการเมืองที่ต้องสังเวยให้กับความเจ็บแค้นของอาจารย์สมศักดิ์ฯ ที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เสมอมา พฤติกรรมแบบนี้ช่างไร้ความรับผิดชอบสิ้นดี
ประการสุดท้าย อาจารย์สมศักดิ์ฯ ควรต้องเซ็นเซอร์ตัวเองบ้าง และควรเปิดโอกาสให้กับพื้นที่ทางวิชาการของตัวเองมากกว่านี้ เราเชื่อว่ากระดูกสันหลังและความเป็นนักวิชาการของอาจารย์สมศักดิ์ฯ จะกลับมาในวันหนึ่ง
ด้วยความเคารพ
ทีมงาน ฤๅ