ข่าวปลอมราชวงศ์จีน เมื่อพระเจ้าสุ่ยหยางตี้ถูกใส่ร้ายว่าขุดคลอง ‘ต้า-ยฺวิ่นเหอ’ เพื่อความสำราญ

คลองขุด “ต้า-ยฺวิ่นเหอ” หรือ คลองใหญ่ (Grand Canal, 大运河) เป็นคลองขุดที่สร้างด้วยฝีมือมนุษย์ที่ยาวที่สุดในโลก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกของจีน มีความยาวทั้งสิ้น 1,776 กิโลเมตร เชื่อมโยงกรุงปักกิ่ง ผ่านเทียนจิน, เหอเป่ย, ชานตุง, เจียงซู, เจ้อเจียง จนจบที่หังโจว

โครงการขุดคลองสายนี้ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในรัชสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิสุ่ยเวิ่นตี้ ปฐมจักรพรรดิราชวงศ์สุ่ย  (หยางเจียน) และแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 609 ในรัชสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิสุ่ยหยางตี้ (หยางกว่าง) และราชวงศ์ต่อ ๆ มามีการปรับปรุง บูรณะ ต่อขยาย จนกลายเป็นคลองขุดต้า-ยฺวิ่นเหอในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ด้วยความล้มเหลวในการบริหารราชการของสุ่ยหยางตี้ฮ่องเต้ในเวลาต่อมา ทำให้เกิดเหตุการณ์ก่อกบฏภายในจักรวรรดิ ซึ่งคณะผู้ก่อการทั้งหลาย ล้วนแต่ปล่อยข่าวปลอมทำลายความน่าเชื่อถือของฮ่องเต้ จนกลายเป็นความเชื่อที่ฝังใจคนรุ่นหลังว่า “สุ่ยหยางตี้ หยางกว่าง สั่งให้ขุดคลองใหญ่ เพื่อการท่องเที่ยวส่วนพระองค์”

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ ซีรีส์จีนฟอร์มยักษ์จาก ทีวีบี เรื่อง “ศึกลำน้ำเลือด” ที่ออกอากาศใน พ.ศ. 2530 มีนักแสดงนำมีชื่ออย่าง เหลียงเฉาเหว่ย, หลิวชิงหวิน และหวงเย่อหัว ซึ่งในเรื่อง มีการกล่าวพาดพิงโครงการคลองขุดนี้ว่า “สร้างมาเพื่อการท่องเที่ยวส่วนพระองค์ของสุ่ยหยางตี้” ด้วยเช่นกัน

นี่เป็นการบิดเบือนวัตถุประสงค์ที่แท้จริง และคุณณูปการของโครงการคลองขุดสายนี้ ผ่านสงครามการข่าว
(Media Warfare) จนเกิดการบิดเบือนการรับรู้ของสาธารณชนนับพันปีเลยทีเดียว



วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการขุดคลองมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจของจีนในยุคสมัยนั้น และความจำเป็นด้านยุทธศาสตร์ความมั่นคงของจีน

ในด้านการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เป็นผลสืบเนื่องมาจากความล้มเหลวของราชวงศ์จิ้น ในการปกป้องอธิปไตยของชาติใน ค.ศ. 317 จนถูกชนเผ่าซ่งหนู เข้ายึดครองแผ่นดินจีนตอนเหนือ ซึ่งส่งผลให้พัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคมของจีนถูกแบ่งออกเป็น
2 ส่วนคือตอนเหนือที่ถูกชนเผ่าซ่งหนูยึดครอง และตอนใต้ที่ชนชาติฮั่นยึดครอง

ภายหลังจากที่แม่ทัพหยางกว่าง (ต่อมาคือฮ่องเต้สุ่ยหยางตี้) กรีธาทัพนำกำลังพลราชวงศ์สุ่ยเข้ากวาดพิชิตราชวงศ์ใต้ รวมจีนที่เคยแตกแยกมายาวนานกว่า
300 ปีได้สำเร็จ โครงการคลองขุดต้า-ยฺวิ่นเหอ คือโครงการเมกกะโปรเจคของราชวงศ์ เพื่อการเชื่อมโยงเศรษฐกิจของจีนตอนเหนือและใต้ ที่เคยแยกกันให้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว

ในปัจจุบัน คลองขุดต้า-ยฺวิ่นเหอยังคงทำหน้าที่เส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจของจีน จากกรุงปักกิ่งลงมาจนถึงหังโจว แตกสายซึมลึกเข้าไปจนถึงเมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนานอีกด้วย

ในส่วนของยุทธศาสตร์ความมั่นคงของจีน นักการทหารจีนยุคโบราณ พบว่าพื้นที่คาบสมุทรเหลียวตง (ปัจจุบันคือมณฑลเหลียวหนิง) คือพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่จะเป็นภัยคุกคามต่อจีนแผ่นดินใหญ่ในอนาคต ซึ่งในเวลานั้นถูกปกครองโดยอาณาจักรโคกูรยอของเกาหลี

เส้นทางคลองขุดต้า-ยฺวิ่นเหอ ถูกวางแผนไว้ให้เป็นเส้นทางลำเลียงเสบียงของกองทัพ เพื่อใช้ในการยึดครองคาบสมุทรเหลียวตง ซึ่งถึงแม้จะไม่สำเร็จในราชวงศ์สุ่ย แต่ในราชวงศ์ถัง ซึ่งเป็นราชวงศ์ถัดมา ก็ยังคงใช้เส้นทางคลองขุดต้า-ยฺวิ่นเหอในการลำเลียงยุทธปัจจัยทางทหารเพื่อการรุกรานโคกูรยอจนประสบผลสำเร็จในรัชสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิถังไท่จง

สำหรับหลักฐานยืนยันข้อกังวลของนักยุทธศาสตร์ทางทหารของจีน คือชนเผ่าแมนจู ซึ่งเติบใหญ่จนสามารถเข้ายึดครองประเทศจีนจากชาวฮั่น ก่อตั้งราชวงศ์ชิงได้สำเร็จใน ค.ศ. 1644 หรืออีกพันปีถัดมา ก็มาจากพื้นที่คาบสมุทรเหลียวตง

นอกจากนี้ ความเข้าใจผิดอีกประการที่หลายคนมักเข้าใจผิดว่า ราชวงศ์สุ่ยล้มละลายเพราะโครงการคลองขุดนั้น ใช้แรงงานคนจีนอย่างโหดร้ายทารุณจนประชาชนโกรธแค้น ก็ไม่เป็นความจริง เนื่องจากหลังจากที่คลองขุดเปิดใช้งานในปี ค.ศ.
609 สภาพเศรษฐกิจของจักรวรรดิต้าสุ่ยยังคงแข็งแรงดีอยู่ อีกทั้งยังมีกำลังมากเพียงพอที่จะเตรียมการในการเปิดสงครามรุกรานโคกูรยอในอีก 3 ปีให้หลัง

ความผิดพลาดที่แท้จริงของราชวงศ์สุ่ย เกิดจากความผิดพลาดในทางยุทธศาสตร์ทางทหารของทัพสุ่ย ที่ไม่มีข้อมูลข่าวสารสภาพภูมิประเทศของโคกูรยอ เพียงอาศัยว่ามีขนาดกองทัพที่ใหญ่กว่า ทำการรบด้วยความประมาท จนไพร่พลทหารต้องล้มตายในสงครามไปนับแสนนาย

ความล้มเหลวในการศึกครั้งนี้ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ ไม่มีความเชื่อมั่นในนโยบายการทหารของรัฐบาลต้าสุ่ย ไม่ยินยอมพร้อมใจที่จะเข้าร่วมรบ บัณฑิตผู้หนึ่งนาม หวังป๋อ แต่งเพลง “ไม่ขอไปตายที่เหลียวตง” เพื่อปลุกใจให้ประชาชนหนีทัพ อีกทั้งขุนศึกหยางเสวียนกั่น ก่อกบฏตัดเส้นทางลำเลียงเสบียงในระหว่างการรุกรานครั้งที่
2 จนทำให้ทัพสุ่ยต้องถอนทัพกลับมาจากเหลียวตงเพื่อปราบกบฏ

ความไม่เชื่อมั่นในรัฐบาล และการพังทลายของโครงสร้างการปกครอง ทำให้ฮ่องเต้สุ่ยหยางตี้ อดีตวีรบุรุษผู้เคยปราบพิชิตราชวงศ์ใต้ รวบรวมแผ่นดินจีนจนเป็นปึกแผ่น พระทัยสลาย ไม่ออกว่าราชการ ไม่เผชิญหน้ากับปัญหา หลีกหนีความเป็นจริง จมอยู่กับความสุขหรรษาในวังหลวง จนสุดท้ายแผ่นดินที่เคยเป็นปึกแผ่น กลับแตกสลายลงอีกครั้ง และตัวพระองค์เองก็ถูกใส่ร้าย แม้หลังถูกปลงพระชนม์ไปแล้วนับพันปี



อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าปลายรัชกาลสุ่ยหยางตี้จะเลวร้ายเพียงใด ไม่ว่าพระองค์จะทรงถูกใส่ร้ายมากแค่ไหน แต่กาลเวลานับ
1,400 ปีกลับเป็นเครื่องพิสูจน์ยืนยันถึงความสำคัญของคลองขุดต้า-ยฺวิ่นเหอ ในฐานะเส้นเลือดทางเศรษฐกิจที่สำคัญของจีน สร้างความเจริญมั่งคั่งให้แก่จักรวรรดิมาตลอดหน้าประวัติศาสตร์ของจีน

ในยุคราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นเวลาปี
1 พันปีให้หลัง มีบันทึกว่าในแต่ละปี มีเรือสินค้าแล่นผ่านคลองขุดถึง 8,000 ลำต่อปี ขนส่งสินค้ามากถึงปีละ 240,000360,000 ตัน

แม้ในปัจจุบัน ความสำคัญของคลองขุดต้า-ยฺวิ่นเหอในทางเศรษฐกิจของจีนจนลดน้อยลงไป จากการแทนที่ของระบบการขนส่งสมัยใหม่ไม่ว่าจะระบบทางพิเศษ, ระบบราง และรถไฟฟ้าความเร็วสูง แต่คลองขุดต้า-ยฺวิ่นเหอกลับมีบทบาทใหม่ในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของจีนและของโลก ในฐานะคลองขุดที่ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ สร้างรายได้ผ่านการท่องเที่ยวให้กับคนจีนในปัจจุบัน

ไม่ว่าจักรพรรดิสุ่ยหยางตี้ หยางกว่างในตอนท้ายจะทรงเหลวแหลกและล้มเหลวสักเพียงใด แต่ข้อเท็จจริงที่ทรงเป็นวีรบุรุษผู้รวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นหนึ่งเดียวในรัชสมัยพระบิดาของพระองค์ อีกทั้งยังสานต่อโครงการคลองขุดของพระบิดา ยังผลประโยชน์ชั่วลูกหลานก็ยังคงเป็นข้อเท็จจริงที่ยังปรากฏจวบจนปัจจุบัน

หยางกว่าง มิได้เลวร้ายไปเสียทั้งหมด แต่สงครามข่าวสารและการบิดเบือดความจริง ทำให้พระองค์ดูเป็นคนโหดร้าย เลวทราม ต่ำช้าเกินกว่าข้อเท็จจริงในหน้าประวัติศาสตร์จวบจนปัจจุบัน


บทความโดย : กุญชร เชี่ยววารี

TOP
y

Emet nisl suscipit adipiscing bibendum. Amet cursus sit amet dictum. Vel risus commodo viverra maecenas.

r

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า