“ความเหลื่อมล้ำ” ทางชั้นเชิงด้านกฎหมายของเสนาธิการเบื้องหลัง กับเหล่าแกนนำเบื้องหน้า

กว่าสองปีแห่งการเคลื่อนไหวทางการเมืองของม็อบปลดแอก ที่แกนนำต่างทยอยถูกจับกุมดำเนินคดีกันถ้วนหน้า กระทั่งมาถึงการวินิจฉัยครั้งสำคัญของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ที่ตัดสินว่าการกระทำของ 3 แกนนำ รุ้ง อานนท์ ไมค์ เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เป็นการยืนยันได้ว่า การเรียกร้องของม็อบปลดแอก ที่มีนักการเมืองหลายคนคอยเป็นแบ็คอัพให้นั้น ไม่ใช่การเรียกร้องเพื่อความเท่าเทียมและต่อต้านความเหลื่อมล้ำใด ๆ เลย หากแต่มีเจตนาไปถึงการล้มล้างการปกครอง

พูดถึงความเท่าเทียม เราเองก็ไม่สนับสนุนให้มีความเหลื่อมล้ำเกิดขึ้นเช่นกัน และจากที่เราสรุปข้อมูลคร่าว ๆ เกี่ยวกับคดีความของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังดูแล้ว พบว่า…ช่างเต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ เป็นความเหลื่อมล้ำจากการใช้ชั้นเชิงด้านกฎหมายของเหล่าเสนาธิการเบื้องหลัง เพื่อให้ตัวเองรอดพ้นคดี

แต่กลับส่งแกนนำทัพหน้าให้ไปติดคุกแทน

แบบนี้เรียกว่าความไม่เท่าเทียมได้ไหม? และถึงเวลาหรือยัง? ที่เราจะกำจัดความเหลื่อมล้ำจากการใช้ชั้นเชิงทางกฎหมายเหล่านี้ให้หมดไป

TOP
y

Emet nisl suscipit adipiscing bibendum. Amet cursus sit amet dictum. Vel risus commodo viverra maecenas.

r

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า