ความสำคัญของ ม.112 ในแง่ของความมั่นคงของระบอบการปกครอง
ความสำคัญของ ม.112 ในแง่ของความมั่นคงของระบอบการปกครอง
คือ ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ Constitutional Monarchy วางประมุขไว้อยู่เหนือการเมือง และผู้บริหารคือฝ่ายการเมือง เพื่อให้กษัตริย์อยู่เหนือความขัดแย้งของขั้วการเมือง เป็นการป้องกันปัญหาความขัดแย้งจากฝ่ายการเมืองที่อาจนำคนไปเข่นฆ่ากัน
อังกฤษออกแบบระบบนี้ไว้หลังจากปัญหาสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมานาน ประชาชนบาดเจ็บล้มตายจากความขัดแย้งของฝ่ายการเมือง ภายหลังจากที่กษัตริย์ถูกโยกออกมาเหนือการเมือง กษัตริย์ในฐานะประมุขของประเทศจึงต้องได้รับความคุ้มครอง เพื่อไม่ให้ถูกนำมาใช้เป็นเป้าทางการเมืองของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า “King can do no wrong” หรือ “กษัตริย์ไม่สามารถทำผิดได้” เพราะกษัตริย์ไม่ทรงกระทำการบริหารประเทศเอง แต่เป็นรัฐบาลที่มาจากตัวแทนของประชาชน เป็นผู้รับมอบอำนาจในการบริหารประเทศตามรัฐธรรมนูญ
เพื่อว่าเมื่อมีความขัดแย้งทางการเมืองจนถึงทางตัน กษัตริย์จะยังเป็นหลักให้กับประเทศชาติ และสามารถใช้อำนาจในฐานะประมุขของรัฐ ในการยุติความขัดแย้งของฝ่ายการเมือง ที่อาจนำประชาชนออกมารบราฆ่าฟันกันเองถึงขั้นสงครามกลางเมือง ที่อาจนำประเทศไปสู่ความเป็นรัฐล้มเหลว (Failed State)
แต่ถึงกระนั้น ม.112 ไม่ได้ห้ามการวิพากษ์หรือตรวจสอบเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณ หรือนโยบายที่รัฐบาลทำภายใต้โครงการพระราชดำริ ฯลฯ
แต่ ม.112 ห้ามการละเมิดในลักษณะหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทฯ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับประชาชนทั่วไปที่มีกฎหมายหมิ่นประมาทคคุ้มครอง และมีสิทธิฟ้องร้องผู้ใส่ร้าย หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย
เพียงแต่สถานะของสถาบันกษัตริย์ เป็นผู้ที่อยู่เหนือการเมืองและไม่สามารถลงมาเป็นคู่ขัดแย้งกับผู้ใด ไม่ว่าจะฝ่ายการเมืองหรือประชาชนทั่วไป จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่รัฐจะต้องจัดให้มีกฎหมายคุ้มครองสถาบันกษัตริย์เพื่อคุ้มครองสถาบันอันเป็นหัวใจหลักของระบอบการปกครอง