ขับกล่อมความสุข ให้อบอุ่นหัวใจ ด้วย “พรปีใหม่” ของขวัญจากพ่อ ถึงคนไทยทุกคน

เพลง “พรปีใหม่” นี้ หลายคนเข้าใจว่า พระองค์ทรงเริ่มต้นพระราชนิพนธ์ขึ้นในคืนวันก่อนปีใหม่ แล้วพระราชทานให้วงดนตรีนำออกบรรเลงในคืนนั้นเลย แต่รู้ไหมครับว่า จริง ๆ แล้วพระองค์ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองมานานก่อนหน้านั้นแล้ว จากนั้นพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ได้นิพนธ์คำร้องเป็นคำอวยพรปีใหม่ ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2494 ซึ่งในหลวง ร.9 เคยมีพระราชดำรัสเล่าเบื้องหลัง การพระราชนิพนธ์เพลง “พรปีใหม่” พระราชทานแก่ คณะกรรมการโครงการ ธ สถิตในดวงใจนิรันดร์ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 ความว่า…

“เพลง พรปีใหม่ คนก็ว่าแต่งในวันปีใหม่หรือวันก่อนวันปีใหม่ แท้จริงแต่งมานานก่อนที่จะออก ปีใหม่เป็นปีหรือสองปีแล้วก็แต่งแบบทุลักทุเล ตอนนั้นไม่สบายคืออยู่ที่เมืองนอกไปมีอุบัติเหตุ หมอบอกว่าห้ามเล่นแซกโซโฟน แต่ว่าท่านจักรพันธ์อยู่ด้วยก็ให้ท่านเป่าแซกโซโฟน ท่านก็เป่ามีเสียงออกมาได้ แต่ท่านไม่รู้ว่านิ้วจะวางอย่างไร ลงท้ายก็เอานิ้วของเราใส่บนแซกโซโฟน แล้วท่านก็เป่า ลงท้ายท่านก็เล่นแซกโซโฟนได้ และเมื่อหมออนุญาตให้เป่าแซกโซโฟนก็เลยเริ่มเล่นเป็นเพลงที่แต่งเอาเองคนหนึ่งเล่นส่วนหลัก แล้วอีกคนก็เล่นต่อสลับกันไปอย่างนี้ แล้วจดเอาไว้ มาถึงปลายปี ก็เลยนึกว่าเอ๊ะ … เราแต่งเพลงสำหรับให้พรปีใหม่ ก็เอาอันนี้ที่แต่งไว้แล้ว มีคนแต่งสองคน ไม่รู้ว่าเป็นเพลง ก็มาปรับปรุงให้เป็นเพลงได้”

ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2494 ทุกคนในศาลาเฉลิมไทย ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะได้รับพระราชทานเพลงพรปีใหม่จากในหลวง ร.9 เมื่อทางสำนักพระราชวังนำทำนองและเนื้อเพลงมาให้ในคืนนั้น วงดนตรีสุนทราภรณ์ได้ใช้เวลาราวหนึ่งชั่วโมง จัดการเรียบเรียงเสียงประสานสำหรับบรรเลงเป็นวงขึ้นมา และได้ร่วมกันขับร้องจนกระทั่งจบเพลง ท่ามกลางเสียงไชโยกึกก้องทั่วทั้งศาลาเฉลิมไทย

นับจากครั้งแรกที่ได้รับการบรรเลงสู่สาธารณชน บทเพลงพระราชนิพนธ์ “พรปีใหม่” ของในหลวง ร.9 ได้ขับกล่อมมอบความรู้สึกดี ๆ ให้แก่ผู้คนในทุกช่วงเทศกาลปีใหม่ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เสมือนของขวัญจากพระองค์ท่าน ดุจดั่งพรจากฟากฟ้า ที่ส่งมอบความปรารถนาดีแก่ทุกคนตลอดมา

และจะนำพาความรื่นรมย์ห่มคลุม ให้ทุกวันปีใหม่ของคนไทยอบอุ่นด้วยความสุขตลอดไป