การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 คณะราษฎรปฏิวัติเพื่อประชาธิปไตยจริงหรือ ?

มีความพยายามเชิดชูคณะราษฎรจากตำราหลายเล่มของนักวิชาการฝั่งซ้าย ทำให้หลายคนถูกสอนให้เชื่อว่า คณะราษฎรเปลี่ยนแปลงการปกครองเพื่อต้องการมอบประชาธิปไตยให้กับคนไทย

แต่ถ้าเราย้อนดูหลักฐานทางประวัติศาสตร์และสิ่งที่เกิดขึ้นหลังการปฏิวัติ ในปี พ.ศ. 2475 จะพบว่า สิ่งที่นักวิชาการเหล่านั้นพยายามปลูกฝัง “ไม่ใช่เรื่องจริง”

เอาง่ายๆ ตั้งแต่ พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พ.ศ. 2475 ที่ปรีดี พนมยงค์ ร่างขึ้นมา ก็เต็มไปด้วยกลิ่นของอำนาจเผด็จการ นั่นคือมีการกำหนดให้ต้องมี ส.ส.ประเภทที่ 2 ซึ่งมาจากการ “ลากตั้ง” หรือ “จิ้มเลือก” โดยคณะราษฎร เป็นเวลายาวนานถึง 10 ปี แถมต่อมายังกำหนดให้ยืดออกไปอีก 10 ปี นับจากปี พ.ศ. 2485 โดยที่ปรีดีฯ ให้เหตุผลว่าคนไทยยังไม่พร้อม

นั่นเท่ากับว่าในช่วงเวลานั้น คณะราษฎรกินเรียบและผูกขาดอำนาจทางการเมืองอยู่ฝ่ายเดียวเป็นเวลากว่า 20 ปี ทั้งในรัฐบาล รัฐสภา ไปจนถึงคณะผู้สำเร็จราชการ และคณะตุลาการ ทั้งหมดเป็นคนของคณะราษฎรทั้งนั้น เรียกได้ว่าคณะราษฎรมีอำนาจสามารถควบคุมอะไรหรือใครก็ได้ แม้แต่สถาบันพระมหากษัตริย์

จากนั้นก็อย่างที่เห็นกันในประวัติศาสตร์ ทั้งการปกครองแบบ “คณาธิปไตยอำนาจนิยม” (Oligarchy) ที่รัฐบาลคณะราษฎรไม่ยอมให้ประชาชนตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาแข่ง หรือแม้กระทั่งร่างเค้าโครงการเศรษฐกิจ หรือ “สมุดปกเหลือง” ของปรีดี พนมยงค์ ที่เอารูปแบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์มาใช้

ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดคำถามว่า คณะราษฎรต้องการพัฒนาประเทศไทยให้เดินไปในทิศทางแห่งระบอบประชาธิปไตยจริงๆ หรือ ?

ยังมีรายละเอียดอีกมากในคลิปวิดีโอ ซึ่งดูแล้วอาจจะได้คำตอบครับว่า จริงๆ แล้วคณะราษฎรปฏิวัติไปเพื่ออะไร แล้วทำไมนักวิชาการบางคนจึงพยายามเหลือเกินที่จะเชิดชูคณะราษฎร และหากไม่มีการปฏิวัติ พ.ศ. 2475 รากฐานการพัฒนาด้านต่างๆ ที่สถาบันพระมหากษัตริย์ได้ทรงสร้างไว้ก่อนหน้านั้น จะนำพาประเทศไทยให้ก้าวหน้าไปได้ไกลแค่ไหนในอนาคต